๑. ชาวพุทธ ควรยึดถืออะไรเป็นที่พึ่งที่ระลึก ?
ก. ไตรสรณคมน์ ข. ไตรปิฎก
ค. ไตรลักษณ์ ง. ไตรสิกขา
คำตอบ : ก
๒. สรณคมน์ หมายถึงอะไร ?
ก. ขอพร ข. ขอให้คุ้มครอง
ค. บนบาน ง. ทำตามคำสอน
คำตอบ : ง
๓. ข้อใด ไม่นับเข้าในสรณะทั้ง ๓ ?
ก. พระพุทธเจ้า ข. พระธรรม
ค. พระสงฆ์ ง. พระโพธิสัตว์
คำตอบ : ง
๔. สรณคมน์ขาดเพราะสาเหตุใด ไม่มีโทษ ?
ก. ความตาย ข. ทำร้ายพระศาสดา
ค. ไปนับถือศาสดาอื่น ง. ไม่มีข้อใดถูก
คำตอบ : ก
๕. ความเชื่อเช่นไร เป็นเหตุให้สรณคมน์เศร้าหมอง ?
ก. เชื่อกรรม ข. เชื่อบาปบุญ
ค. เชื่อมงคลตื่นข่าว ง. เชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ
คำตอบ : ค
๖. จุดประสงค์ในการถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ตรงกับข้อใด ?
ก. ทำบุญเพื่อล้างบาป ข. ทำบุญแสวงหาลาภ
ค. หาเช่าจตุคามรุ่นนิยม ง. ปฏิบัติเพื่อกำจัดกิเลส
คำตอบ : ง
๗. การขาดสรณคมน์ เกิดขึ้นได้แก่บุคคลใด ?
ก. บุคคลทั่วไป ข. โสดาบันบุคคล
ค. สกทาคามีบุคคล ง. อนาคามีบุคคล
คำตอบ : ก
๘. “สุปปพุทธกุฏฐิ” เป็นแบบอย่างของบุคคลผู้มั่นคงในเรื่องใด ?
ก. การถือศีล ข. การถือสันโดษ
ค. การถือสัจจะ ง. การถือสรณคมน์
คำตอบ : ง
๙. ตัดเศียรพระพุทธรูป เป็นความเศร้าหมองแห่งสรณคมน์เรื่องใด ?
ก. ความไม่รู้ ข. ความรู้ผิด
ค. ความสงสัย ง. ความไม่เอื้อเฟื้อ
คำตอบ : ง
๑๐. “นรกมีจริงหรือ” เป็นความเศร้าหมองแห่งสรณคมน์เรื่องใด ?
ก. ความไม่รู้ ข. ความรู้ผิด
ค. ความสงสัย ง. ความไม่เอื้อเฟื้อ
คำตอบ : ค
๑๑. “ผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัย” หมายเฉพาะใคร ?
ก. ภิกษุ ภิกษุณี ข. สามเณร สามเณรี
ค. อุบาสก อุบาสิกา ง. พุทธบริษัททั้ง ๔
คำตอบ : ค
๑๒. พาณิชสองพี่น้องเข้าถึงพระรัตนตรัยด้วยวิธีใด ?
ก. สมาทาน ข. มอบตนเป็นสาวก
ค. ถวายชีวิต ง. แสดงความเลื่อมใส
คำตอบ : ก
๑๓. ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นความหมายของข้อใด ?
ก. พระพุทธ ข. พระธรรม
ค. พระสงฆ์ ง. พระอริยะ
คำตอบ : ก
๑๔. คำว่า ธรรมรักษา ในความหมายของสรณะ ๓ ตรงกับข้อใด ?
ก. กำจัดภัย ข. ไม่ให้ตกอบาย
ค. เป็นเนื้อนาบุญ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ข
๑๕. พระสงฆ์ได้นามว่า สังฆะ เพราะเหตุใด ?
ก. บวชในพระพุทธศาสนา
ข. มีทิฏฐิและศีลเสมอกัน
ค. อาศัยอยู่ในวัดเดียวกัน
ง. โกนผมห่มจีวรเหมือนกัน
คำตอบ : ข
๑๖. คำเปล่งวาจาว่า สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ หมายถึงอะไร ?
ก. มีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ข. มีพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ค. มีพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก
ง. มีพระพรหมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
คำตอบ : ค
๑๗. การรักษาอุโบสถศีลในพระพุทธศาสนา มีต้นเหตุมาจากใคร ?
ก. พระเจ้าสุทโธทนะ ข. พระเจ้าพิมพิสาร
ค. พระเจ้าปเสนทิโกศล ง. พระเจ้าอชาตศัตรู
คำตอบ : ข
๑๘. คำว่า อุโบสถ แปลว่าอะไร ?
ก. การเข้าจำ ข. การจำพรรษา
ค. การปฏิบัติธรรม ง. การอดอาหาร
คำตอบ : ก
๑๙. อุโบสถเริ่มปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยใด ?
ก. ก่อนพุทธกาล ข. สมัยพุทธกาล
ค. กึ่งพุทธกาล ง. หลังพุทธกาล
คำตอบ : ก
๒๐. อุโบสถประกอบด้วยสรณะและองค์ ๘ เกิดขึ้นในสมัยใด ?
ก. ก่อนพุทธกาล ข. สมัยพุทธกาล
ค. กึ่งพุทธกาล ง. หลังพุทธกาล
คำตอบ : ค
๒๑. อุโบสถศีล บัญญัติขึ้นสำหรับใคร ?
ก. ภิกษุ ข. ภิกษุณี
ค. คนทั่วไป ง. อุบาสก อุบาสิกา
คำตอบ : ง
๒๒. อุโบสถศีลต่างจากศีล ๕ อย่างไร ?
ก. มีกำหนดเวลารักษา
ข. ไม่มีกำหนดเวลารักษา
ค. เป็นพื้นฐานของมนุษย์
ง. เป็นบัญญัติชอบธรรม
คำตอบ : ก
๒๓. อาการเช่นไร เรียกว่ารักษาอุโบสถศีล ?
ก. การถือศีลกินเจ ข. การถือไม่พูดกับใคร
ค. การงดเว้นข้อห้าม ง. การงดเหล้าเข้าพรรษา
คำตอบ : ค
๒๔. การสมาทานอุโบสถศีล ข้อใดกล่าวถูกต้อง ?
ก. สมาทานในวันใดก็ได้
ข. สมาทานกับใครก็ได้
ค. สมาทานต่อหน้าพระสงฆ์
ง. สมาทานตามวันที่กำหนด
คำตอบ : ง
๒๕. สิกขาบทที่ ๓ แห่งอุโบสถศีล ว่าอย่างไร ?
ก. ปาณาติปาตา เวรมณีสิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
ข. อพฺรหฺมจริยา เวรมณีสิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
ค. มุสาวาทา เวรมณีสิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
ง. วิกาลโภชนา เวรมณีสิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
คำตอบ : ข
๒๖. ผู้สมาทานอุโบสถศีลข้อที่ ๓ พึงงดเว้นการกระทำในเรื่องใด ?
ก. การล่วงประเวณี ข. การพูดเท็จ
ค. การดื่มสุราเมรัย ง. การกินอาหาร
คำตอบ : ก
๒๗. อุโบสถศีลข้อที่ ๔ บัญญัติขึ้นเพื่อให้ผู้รักษาเป็นคนเช่นไร ?
ก. ขยัน ข. ประหยัด
ค. ซื่อสัตย์ ง. อดทน
คำตอบ : ค
๒๘. ปลาหมอตายเพราะปาก มีความหมายตรงกับข้อใด
ก. พูดเท็จ ข. ดื่มน้ำเมา
ค. บริโภคอาหาร ง. ขับร้องเพลง
คำตอบ : ก
๒๙. ข้าพเจ้าสมาทานสิกขาบทคือเว้นจากพูดเท็จ ตรงกับศีลข้อใด ?
ก. ข้อ ๑ ข. ข้อ ๒
ค. ข้อ ๓ ง. ข้อ ๔
คำตอบ : ง
๓๐. สมาทานอุโบสถศีล แต่บริโภคอาหารค่ำ ชื่อว่าละเมิดศีลข้อใด ?
ก. ข้อ ๓ ข. ข้อ ๔
ค. ข้อ ๕ ง. ข้อ ๖
คำตอบ : ง
๓๑. คำว่า “วิกาล” ในอุโบสถศีล กำหนดไว้อย่างไร ?
ก. เช้าถึงเที่ยง ข. เช้าถึงบ่าย
ค. เช้าถึงเย็น ง. เที่ยงถึงอรุณขึ้น
คำตอบ : ง
๓๒. ประโยชน์ของการรักษาอุโบสถศีลข้อที่ ๖ ตรงกับข้อใด ?
ก. เพื่อทรมานกิเลส ข. เพื่อทรมานสังขาร
ค. เพื่อตัดความกังวล ง. เพื่อความประหยัด
คำตอบ : ค
๓๓. เพลงเช่นไร ไม่ถือว่าเป็นข้าศึกแก่การรักษาอุโบสถศีล ?
ก. เพลงลูกทุ่ง ข. เพลงเพื่อชีวิต
ค. เพลงธรรมะ ง. เพลงละครทีวี
คำตอบ : ค
๓๔. การเว้นจากการลูบไล้ทาเครื่องย้อมเครื่องประดับตกแต่งร่างกาย ชื่อว่ารักษาอุโบสถศีลข้อใด ?
ก. ข้อ ๕ ข. ข้อ ๖
ค. ข้อ ๗ ง. ข้อ ๘
คำตอบ : ค
๓๕. ที่นั่งที่นอนเช่นไร อนุโลมแก่ผู้รักษาอุโบสถศีล ?
ก. ที่นั่งที่นอนสูง ข. ที่นั่งที่นอนใหญ่
ค. ที่นั่งที่นอนยัดนุ่น ง. ที่นั่งที่นอนยัดขนแกะ
คำตอบ : ง
๓๖. ข้อใด ไม่นับเข้าในอุโบสถศีลอันประกอบด้วยองค์ ๘ ?
ก. ไม่ลักของผู้อื่น ข. ไม่พูดเท็จ
ค. ไม่ดูการละเล่น ง. ไม่จับเงินทอง
คำตอบ : ง
๓๗. อุโบสถศีลที่รักษาเฉพาะวันหนึ่งคืนหนึ่ง ตรงกับข้อใด ?
ก. ปกติอุโบสถ ข. ปฏิชาครอุโบสถ
ค. ปาฏิหาริยอุโบสถ ง. โคปาลกอุโบสถ
คำตอบ : ก
๓๘. การถือศีลอุโบสถ ปล่อยวันคืนให้ผ่านพ้นไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่ทำความดี อะไรเลย จัดเป็นอุโบสถประเภทใด ?
ก. ปกติอุโบสถ ข. ปฏิชาครอุโบสถ
ค. ปาฏิหาริยอุโบสถ ง. โคปาลกอุโบสถ
คำตอบ : ง
๓๙. การรักษาอุโบสถประเภทใด เทียบเคียงได้กับการจำพรรษาของพระภิกษุ ในช่วงฤดูฝน ?
ก. ปกติอุโบสถ ข. ปฏิชาครอุโบสถ
ค. อริยอุโบสถ ง. ปาฏิหาริยอุโบสถ
คำตอบ : ง
๔๐. วันรับ วันรักษา วันส่ง มีความเกี่ยวข้องกับอุโบสถประเภทใด ?
ก. ปกติอุโบสถ ข. ปฏิชาครอุโบสถ
ค. ปาฏิหาริยอุโบสถ ง. โคปาลกอุโบสถ
คำตอบ : ข
๔๑. อุโบสถของนักบวชนอกพระพุทธศาสนา ตรงกับข้อใด ?
ก. ปฏิชาครอุโบสถ ข. ปาฏิหาริยอุโบสถ
ค. นิคคัณฐอุโบสถ ง. โคปาลกอุโบสถ
คำตอบ : ค
๔๒. ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีล พึงปฏิบัติตนอย่างไร ?
ก. บริจาคทาน ข. รักษาศีล
ค. เจริญภาวนา ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๔๓. การสมาทานอุโบสถศีล กำหนดให้สมาทานที่ไหน
ก. ที่วัด ข. ที่บ้าน
ค. ที่โรงพยาบาล ง. ที่ไหนก็ได้
คำตอบ : ง
๔๔. อัฏฐมีดิถี ในคำประกาศอุโบสถศีล หมายถึงวันใด ?
ก. วัน ๗ ค่ำ ข. วัน ๘ ค่ำ
ค. วัน ๑๔ ค่ำ ง. วัน ๑๕ ค่ำ
คำตอบ : ข
๔๕. การรักษาอุโบสถศีล ชื่อว่าปฏิบัติตามหลักธรรมหมวดใด ?
ก. บุญกิริยาวัตถุ ข. สังคหวัตถุ
ค. พรหมวิหาร ง. สติปัฏฐาน
คำตอบ : ก
๔๖. การรักษาอุโบสถศีล จะสิ้นสุดลงในเวลาใด ?
ก. เมื่อเลิกรักษา ข. เมื่อพ้นกำหนด
ค. เมื่อเจ็บป่วย ง. เมื่อมีญาติตาย
คำตอบ : ข
๔๗. การรักษาอุโบสถศีล จัดอยู่ในศาสนพิธีประเภทใด
ก. กุศลพิธี ข. บุญพิธี
ค. ทานพิธี ง. ปกิณกะ
คำตอบ : ก
๔๘. ข้อใด ไม่เกี่ยวข้องกับระเบียบพิธีในการรักษาอุโบสถศีล ?
ก. ประกาศองค์อุโบสถ ข. อาราธนาศีล
ค. อาราธนาธรรม ง. สมาทานศีล
คำตอบ : ค
๔๙. การรักษาอุโบสถศีล จัดเข้าในไตรสิกขาข้อใด ?
ก. ศีล ข. สมาธิ
ค. ปัญญา ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ก
๕๐. อุโบสถศีลที่รักษาดีแล้ว ย่อมได้รับอานิสงส์สูงสุดในข้อใด ?
ก. โภคสมบัติ ข. มนุษยสมบัติ
ค. สวรรคสมบัติ ง. นิพพานสมบัติ
คำตอบ : ง
เฉลยโดยแม่กองธรรมสนามหลวง
คุรุธรรม
วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ ธรรมศึกษาชั้นโทปี พ.ศ.๒๕๕๐
๑. ประวัติของผู้บวชตาม ปฏิบัติตาม รู้ตาม หมายถึงข้อใด ?
ก. พุทธประวัติ ข. อนุพุทธประวัติ
ค. พุทธานุพุทธประวัติ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ข
๒. พระธรรมเทศนาใด โกณฑัญญะฟังแล้วได้ดวงตาเห็นธรรม ?
ก. อนุปุพพีกถา ข. ธัมมจักกัปวัตตนสูตร
ค. อนัตตลักขณสูตร ง. อาทิตตปริยายสูตร
คำตอบ : ข
๓. พระมหาบุรุษทรงเลิกบำเพ็ญทุกรกิริยา เพราะเหตุใด ?
ก. ปัญจวัคคีย์ขอให้เลิก ข. ปัญจวัคคีย์หนีไป
ค. รู้ว่าไม่ใช่ทางตรัสรู้ ง. บรรลุธรรมแล้ว
คำตอบ : ค
๔. ปัญจวัคคีย์ อยู่เฝ้าอุปัฏฐากพระมหาบุรุษกี่ปี ?
ก. ๒ ปี ข. ๓ ปี
ค. ๕ ปี ง. ๖ ปี
คำตอบ : ง
๕. ใครออกบวชพร้อมกับโกณฑัญญะ ?
ก. กิมพิละ ข. ภคุ
ค. อัสสชิ ง. ควัมปติ
คำตอบ : ค
๖. ข้อใด ไม่ได้เกิดขึ้นที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ?
ก. ปฐมพรรษา ข. ปฐมเทศนา
ค. ปฐมสาวิกา ง. ปฐมสาวก
คำตอบ : ค
๗. พระสงฆ์เกิดขึ้นในโลกครั้งแรก ตรงกับวันอะไร ?
ก. วันมาฆบูชา ข. วันวิสาขบูชา
ค. วันอัฏฐมีบูชา ง. วันอาสาฬหบูชา
คำตอบ : ง
๘. พระยสะ ออกบวชเพราะเหตุใด ?
ก. เกิดศรัทธา ข. ถูกบังคับ
ค. เพื่อนชวน ง. เกิดความเบื่อหน่าย
คำตอบ : ง
๙. ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง... เป็นคำพูดของใคร ?
ก. พระพุทธเจ้า ข. พระยสะ
ค. พระสารีบุตร ง. พระอานนท์
คำตอบ : ก
๑๐. ข้อใด กล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับพระยสะ ?
ก. สหาย ๕๔ บวชตาม ข. ขอบวชต่อบิดามารดา
ค. บิดาเป็นอุบาสกคนแรก ง. ได้ฟังอนุปุพพีกถา
คำตอบ : ข
๑๑. พระอุรุเวลกัสสปะ เป็นชาวเมืองไหน ?
ก. ราชคฤห์ ข. สาวัตถี
ค. นาลันทา ง. คยาสีสะ
คำตอบ : ง
๑๒. พระอุรุเวลกัสสปะขอบวชในพระพุทธศาสนา เพราะเหตุใด ?
ก. ได้เห็นอภินิหาร ข. ถูกทรมานด้วยฤทธิ์
ค. ถูกขอร้องให้บวช ง. ลัทธิตนไม่มีแก่นสาร
คำตอบ : ง
๑๓. ข้อใด ไม่ใช่คุณสมบัติพื้นฐานของชฎิล ๓ พี่น้อง ?
ก. มีชีวิตคู่มาก่อน ข. เป็นนักบวชชฎิลมาก่อน
ค. จบไตรเพทมาก่อน ง. เป็นหัวหน้าชฎิลมาก่อน
คำตอบ : ก
๑๔. ภาวะโลกร้อนกำลังเป็นปัญหาอย่างหนัก ส่วนสภาวธรรมที่เป็นของร้อน
ปรากฏในพระสูตรไหน ?
ก. เวทนาปริคคหสูตร ข. อาทิตตปริยายสูตร
ค. อนัตตลักขณสูตร ง. ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
คำตอบ : ข
๑๕. ใครเป็นทั้งมิตรแท้ เป็นทั้งอาจารย์ของโกลิตะ ?
ก พระอัสสชิ ข. อุปติสสะ
ค. พาวรี ง. สัญชัย
คำตอบ : ข
๑๖. สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ชอบใจหมด ใครพูด ?
ก. อุปติสสปริพาชก ข. โกลิตปริพาชก
ค. สุภัททปริพาชก ง. ทีฆนขปริพาชก
คำตอบ : ง
๑๗. อุปติสสะกับพระสารีบุตร เกี่ยวข้องกันอย่างไร ?
ก. อุปติสสะเป็นพี่ ข. พระสารีบุตรเป็นพี่
ค. เป็นคนเดียวกัน ง. เป็นเพื่อนกัน
คำตอบ : ค
๑๘. หลังจากบวชได้ ๗ วัน เกิดอะไรขึ้นแก่พระโมคคัลลานะ ?
ก. คิดถึงบ้านเกิด ข. ใจท้อแท้หดหู่
ค. เกิดความเบื่อหน่าย ง. อ่อนใจโงกง่วง
คำตอบ : ง
๑๙. ผู้ได้รับยกย่องว่าเป็นพระธรรมราชา คือใคร ?
ก. พระพุทธเจ้า ข. พระสารีบุตร
ค. พระอานนท์ ง. พระมหากัสสปะ
คำตอบ : ก
๒๐. พระสาวกรูปใด ชอบอยู่ป่าปฏิบัติกัมมัฏฐาน ?
ก. พระอุรุเวลกัสสปะ ข. พระโมคคัลลานะ
ค. พระมหากัสสปะ ง. พระกุมารกัสสปะ
คำตอบ : ค
๒๑. พระมหาเถระผู้คิดริเริ่มในการทำสังคายนาครั้งแรก คือใคร ?
ก. พระอุรุเวลกัสสปะ ข. พระมหากัสสปะ
ค. พระอานนท์ ง. พระอุบาลี
คำตอบ : ข
๒๒. พระสาวกรูปใด ไม่ได้ออกบวชพร้อมกับพระอานนท์ ?
ก. พระอนุรุทธะ ข. พระภัททิยะ
ค. พระอุบาลี ง. พระสารีบุตร
คำตอบ : ง
๒๓. พระมหากัจจายนะ ก่อนบวชมีตำแหน่งอะไร ?
ก. ปุโรหิต ข. ทหารองครักษ์
ค. อำมาตย์ ง. เจ้าลัทธิ
คำตอบ : ก
๒๔. พระสาวกรูปใด สามารถยังสกุลที่ไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใสได้ ?
ก. พระโมคคัลลานะ ข. พระสารีบุตร
ค. พระอุบาลี ง. พระกาฬุทายี
คำตอบ : ง
๒๕. พระพุทธเจ้า ทรงรับประกันเพื่อให้ได้นางอัปสรแก่ใคร ?
ก. พระภัททิยะ ข. พระนันทะ
ค. พระอานนท์ ง. พระเทวทัต
คำตอบ : ข
๒๖. พระสาวกรูปใด ตอนเกิดบิดาพูดว่า บ่วงเกิดแล้ว ?
ก. พระอานนท์ ข. พระอุบาลี
ค. พระราหุล ง. พระอัสสชิ
คำตอบ : ค
๒๗. พระสาวกรูปใด เคยปรารถนาว่า ขออย่าได้ยินคำว่าไม่มี ?
ก. พระภัททิยะ ข. พระมหานามะ
ค. พระอนุรุทธะ ง. พระกิมพิละ
คำตอบ : ค
๒๘. พระสาวกรูปใด บรรลุพระอรหันต์ขณะปลงผมเสร็จ ?
ก. พระสีวลี ข. พระเรวตะ
ค. พระสุภูติ ง. พระวังคีสะ
คำตอบ : ก
๒๙. พระสาวกรูปใด มารดาบิดาจำใจยอมให้บวช ?
ก. พระราธะ ข. พระอนุรุทธะ
ค. พระรัฐบาล ง. พระสาคตะ
คำตอบ : ค
๓๐. พระสาวกรูปใด ถูกพระศาสดาทรงตำหนิว่า โมฆบุรุษผู้มักมาก ?
ก. พระสุภูติ ข. พระจุนทะ
ค. พระเรวตะ ง. พระอุปเสนะ
คำตอบ : ง
๓๑. มีปัญญา แม้ไม่มีทรัพย์ ยังพออยู่ได้ แต่ขาดปัญญา
แม้มีทรัพย์ก็อยู่ไม่ได้ ... เป็นธรรมวาทะของใคร ?
ก. พระโสภิตะ ข. พระสาคตะ
ค. พระมหากัปปินะ ง. พระพากุละ
คำตอบ : ค
๓๒. พระสาวกรูปใด ขณะเป็นพระราชา มีม้าไว้สืบข่าวการอุบัติขึ้น
ของพระพุทธเจ้า ?
ก. พระมหากัปปินะ ข. พระรัฐบาล
ค. พระภัททิยะ ง. พระโสณกุฏิกัณณะ
คำตอบ : ก
๓๓. พระสาวกรูปใด ก่อนบวชมักพูดหักล้างคนอื่น จนใคร ๆ
ไม่อยากคบหาสมาคมด้วย ?
ก. พระโสณกุฏิกัณณะ ข. พระกุมารกัสสปะ
ค. พระปุณณชิ ง. พระมหาโกฏฐิตะ
คำตอบ : ง
๓๔. ใครทำหน้าที่วินิจฉัยอธิกรณ์ กรณีมารดาของกุมารกัสสปะ ?
ก. พระมหากัสสปะ ข. พระอานนท์
ค. พระสารีบุตร ง. พระอุบาลี
คำตอบ : ง
๓๕. พระสาวกรูปใด ก่อนบวชถูกล้อเลียนว่า เด็กไม่มีแม่ ?
ก. พระรัฐบาล ข. พระราธะ
ค. พระกุมารกัสสปะ ง. พระโกณฑธาน
คำตอบ : ค
๓๖. พระสาวกรูปใด ก่อนบวชมีความเชี่ยวชาญด้านดนตรี ?
ก. พระโสณโกฬิวิสะ ข. พระปิลินทวัจฉะ
ค. พระปุณณชิ ง. พระมหาโกฏฐิตะ
คำตอบ : ก
๓๗. พระสาวกรูปใด ชำนาญในมนต์เคาะกะโหลกศีรษะมนุษย์ ?
ก. พระพาหิยะ ข. พระสุภูติ
ค. พระสาคตะ ง. พระวังคีสะ
คำตอบ : ง
๓๘. พระสาวกรูปใด เป็นต้นบัญญัติในการห้ามดื่มสุรา ?
ก. พระสาคตะ ข. พระพากุละ
ค. พระสุภูติ ง. พระโสภิตะ
คำตอบ : ก
๓๙. พระสาวกรูปใด ได้ชื่อว่าปัจฉิมภวิกสัตว์ ผู้เกิดเป็นภพสุดท้าย ?
ก. พระสิวลี ข. พระพากุละ
ค. พระสุภูติ ง. พระราธะ
คำตอบ : ข
๔๐. พระพากุละไม่มีโรคภัยเบียดเบียน เพราะสาเหตุใด ?
ก. สร้างเจดีย์ถวาย ข. สร้างห้องสุขาถวาย
ค. ถวายยาเป็นทาน ง. ข้อ ข. และ ค. ถูก
คำตอบ : ง
ศาสนพิธี
๔๑. ระเบียบแบบแผนที่ผู้นับถือศาสนาพึงปฏิบัติ เรียกว่าอะไร ?
ก. ศาสนพิธี ข. บุญพิธี
ค. ทานพิธี ง. กุศลพิธี
คำตอบ : ก
๔๒. ข้อใด จัดเป็นงานอวมงคล ?
ก. ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ข. ทำบุญอุทิศผู้ตาย
ค. ทำบุญทอดกฐิน ง. ทำบุญฉลองเมรุ
คำตอบ : ข
๔๓. วันพระ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวันอะไร ?
ก. วันอุโบสถ ข. วันวัสสูปนายิกา
ค. วันธรรมสวนะ ง. วันปาฏิบท
คำตอบ : ค
๔๔. ผ้าที่โยงจากศพ เพื่อทำพิธีทอดผ้าบังสุกุล เรียกว่าอะไร ?
ก. ผ้าภูษามาลา ข. ผ้าภูษาโยง
ค. ผ้าบังสุกุล ง. ผ้าปูลาด
คำตอบ : ข
๔๕. วันเข้าพรรษา ตรงกับข้อใด ?
ก. ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๘ ข. ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘
ค. แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ง. แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๙
คำตอบ : ค
๔๖. วันมหาปวารณา ตรงกับข้อใด ?
ก. วันแสดงธรรม ข. วันอุโบสถ
ค. วันเข้าพรรษา ง. วันออกพรรษา
คำตอบ : ง
๔๗. ข้อใด ไม่ใช่อยู่ในบทพุทธานุสสติ ?
ก. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ข. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน
ค. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ ง. สนฺทิฏฺฐิโก อกาลิโก
๔๘. การถวายผ้าอาบน้ำฝน นิยมถวายในวันใด ?
ก. วันมาฆบูชา ข. วันวิสาขบูชา
ค. วันอัฏฐมีบูชา ง. วันอาสาฬหบูชา
คำตอบ : ง
๔๙. อุโบสถศีลข้อสุดท้าย ว่าด้วยการเว้นเรื่องใด ?
ก. บริโภคในเวลาวิกาล ข. ฟ้อนรำขับร้อง
ค. ทัดทรงดอกไม้ ง. ที่นั่งที่นอนสูงใหญ่
คำตอบ : ง
๕๐. การทอดกฐิน สิ้นสุดในวันใด ?
ก. วันลอยกระทง ข. วันสงกรานต์
ค. วันเข้าพรรษา ง. วันออกพรรษา
คำตอบ : ก
เฉลยโดยแม่กองธรรมสนามหลวง
คุรุธรรม
ก. พุทธประวัติ ข. อนุพุทธประวัติ
ค. พุทธานุพุทธประวัติ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ข
๒. พระธรรมเทศนาใด โกณฑัญญะฟังแล้วได้ดวงตาเห็นธรรม ?
ก. อนุปุพพีกถา ข. ธัมมจักกัปวัตตนสูตร
ค. อนัตตลักขณสูตร ง. อาทิตตปริยายสูตร
คำตอบ : ข
๓. พระมหาบุรุษทรงเลิกบำเพ็ญทุกรกิริยา เพราะเหตุใด ?
ก. ปัญจวัคคีย์ขอให้เลิก ข. ปัญจวัคคีย์หนีไป
ค. รู้ว่าไม่ใช่ทางตรัสรู้ ง. บรรลุธรรมแล้ว
คำตอบ : ค
๔. ปัญจวัคคีย์ อยู่เฝ้าอุปัฏฐากพระมหาบุรุษกี่ปี ?
ก. ๒ ปี ข. ๓ ปี
ค. ๕ ปี ง. ๖ ปี
คำตอบ : ง
๕. ใครออกบวชพร้อมกับโกณฑัญญะ ?
ก. กิมพิละ ข. ภคุ
ค. อัสสชิ ง. ควัมปติ
คำตอบ : ค
๖. ข้อใด ไม่ได้เกิดขึ้นที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ?
ก. ปฐมพรรษา ข. ปฐมเทศนา
ค. ปฐมสาวิกา ง. ปฐมสาวก
คำตอบ : ค
๗. พระสงฆ์เกิดขึ้นในโลกครั้งแรก ตรงกับวันอะไร ?
ก. วันมาฆบูชา ข. วันวิสาขบูชา
ค. วันอัฏฐมีบูชา ง. วันอาสาฬหบูชา
คำตอบ : ง
๘. พระยสะ ออกบวชเพราะเหตุใด ?
ก. เกิดศรัทธา ข. ถูกบังคับ
ค. เพื่อนชวน ง. เกิดความเบื่อหน่าย
คำตอบ : ง
๙. ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง... เป็นคำพูดของใคร ?
ก. พระพุทธเจ้า ข. พระยสะ
ค. พระสารีบุตร ง. พระอานนท์
คำตอบ : ก
๑๐. ข้อใด กล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับพระยสะ ?
ก. สหาย ๕๔ บวชตาม ข. ขอบวชต่อบิดามารดา
ค. บิดาเป็นอุบาสกคนแรก ง. ได้ฟังอนุปุพพีกถา
คำตอบ : ข
๑๑. พระอุรุเวลกัสสปะ เป็นชาวเมืองไหน ?
ก. ราชคฤห์ ข. สาวัตถี
ค. นาลันทา ง. คยาสีสะ
คำตอบ : ง
๑๒. พระอุรุเวลกัสสปะขอบวชในพระพุทธศาสนา เพราะเหตุใด ?
ก. ได้เห็นอภินิหาร ข. ถูกทรมานด้วยฤทธิ์
ค. ถูกขอร้องให้บวช ง. ลัทธิตนไม่มีแก่นสาร
คำตอบ : ง
๑๓. ข้อใด ไม่ใช่คุณสมบัติพื้นฐานของชฎิล ๓ พี่น้อง ?
ก. มีชีวิตคู่มาก่อน ข. เป็นนักบวชชฎิลมาก่อน
ค. จบไตรเพทมาก่อน ง. เป็นหัวหน้าชฎิลมาก่อน
คำตอบ : ก
๑๔. ภาวะโลกร้อนกำลังเป็นปัญหาอย่างหนัก ส่วนสภาวธรรมที่เป็นของร้อน
ปรากฏในพระสูตรไหน ?
ก. เวทนาปริคคหสูตร ข. อาทิตตปริยายสูตร
ค. อนัตตลักขณสูตร ง. ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
คำตอบ : ข
๑๕. ใครเป็นทั้งมิตรแท้ เป็นทั้งอาจารย์ของโกลิตะ ?
ก พระอัสสชิ ข. อุปติสสะ
ค. พาวรี ง. สัญชัย
คำตอบ : ข
๑๖. สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ชอบใจหมด ใครพูด ?
ก. อุปติสสปริพาชก ข. โกลิตปริพาชก
ค. สุภัททปริพาชก ง. ทีฆนขปริพาชก
คำตอบ : ง
๑๗. อุปติสสะกับพระสารีบุตร เกี่ยวข้องกันอย่างไร ?
ก. อุปติสสะเป็นพี่ ข. พระสารีบุตรเป็นพี่
ค. เป็นคนเดียวกัน ง. เป็นเพื่อนกัน
คำตอบ : ค
๑๘. หลังจากบวชได้ ๗ วัน เกิดอะไรขึ้นแก่พระโมคคัลลานะ ?
ก. คิดถึงบ้านเกิด ข. ใจท้อแท้หดหู่
ค. เกิดความเบื่อหน่าย ง. อ่อนใจโงกง่วง
คำตอบ : ง
๑๙. ผู้ได้รับยกย่องว่าเป็นพระธรรมราชา คือใคร ?
ก. พระพุทธเจ้า ข. พระสารีบุตร
ค. พระอานนท์ ง. พระมหากัสสปะ
คำตอบ : ก
๒๐. พระสาวกรูปใด ชอบอยู่ป่าปฏิบัติกัมมัฏฐาน ?
ก. พระอุรุเวลกัสสปะ ข. พระโมคคัลลานะ
ค. พระมหากัสสปะ ง. พระกุมารกัสสปะ
คำตอบ : ค
๒๑. พระมหาเถระผู้คิดริเริ่มในการทำสังคายนาครั้งแรก คือใคร ?
ก. พระอุรุเวลกัสสปะ ข. พระมหากัสสปะ
ค. พระอานนท์ ง. พระอุบาลี
คำตอบ : ข
๒๒. พระสาวกรูปใด ไม่ได้ออกบวชพร้อมกับพระอานนท์ ?
ก. พระอนุรุทธะ ข. พระภัททิยะ
ค. พระอุบาลี ง. พระสารีบุตร
คำตอบ : ง
๒๓. พระมหากัจจายนะ ก่อนบวชมีตำแหน่งอะไร ?
ก. ปุโรหิต ข. ทหารองครักษ์
ค. อำมาตย์ ง. เจ้าลัทธิ
คำตอบ : ก
๒๔. พระสาวกรูปใด สามารถยังสกุลที่ไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใสได้ ?
ก. พระโมคคัลลานะ ข. พระสารีบุตร
ค. พระอุบาลี ง. พระกาฬุทายี
คำตอบ : ง
๒๕. พระพุทธเจ้า ทรงรับประกันเพื่อให้ได้นางอัปสรแก่ใคร ?
ก. พระภัททิยะ ข. พระนันทะ
ค. พระอานนท์ ง. พระเทวทัต
คำตอบ : ข
๒๖. พระสาวกรูปใด ตอนเกิดบิดาพูดว่า บ่วงเกิดแล้ว ?
ก. พระอานนท์ ข. พระอุบาลี
ค. พระราหุล ง. พระอัสสชิ
คำตอบ : ค
๒๗. พระสาวกรูปใด เคยปรารถนาว่า ขออย่าได้ยินคำว่าไม่มี ?
ก. พระภัททิยะ ข. พระมหานามะ
ค. พระอนุรุทธะ ง. พระกิมพิละ
คำตอบ : ค
๒๘. พระสาวกรูปใด บรรลุพระอรหันต์ขณะปลงผมเสร็จ ?
ก. พระสีวลี ข. พระเรวตะ
ค. พระสุภูติ ง. พระวังคีสะ
คำตอบ : ก
๒๙. พระสาวกรูปใด มารดาบิดาจำใจยอมให้บวช ?
ก. พระราธะ ข. พระอนุรุทธะ
ค. พระรัฐบาล ง. พระสาคตะ
คำตอบ : ค
๓๐. พระสาวกรูปใด ถูกพระศาสดาทรงตำหนิว่า โมฆบุรุษผู้มักมาก ?
ก. พระสุภูติ ข. พระจุนทะ
ค. พระเรวตะ ง. พระอุปเสนะ
คำตอบ : ง
๓๑. มีปัญญา แม้ไม่มีทรัพย์ ยังพออยู่ได้ แต่ขาดปัญญา
แม้มีทรัพย์ก็อยู่ไม่ได้ ... เป็นธรรมวาทะของใคร ?
ก. พระโสภิตะ ข. พระสาคตะ
ค. พระมหากัปปินะ ง. พระพากุละ
คำตอบ : ค
๓๒. พระสาวกรูปใด ขณะเป็นพระราชา มีม้าไว้สืบข่าวการอุบัติขึ้น
ของพระพุทธเจ้า ?
ก. พระมหากัปปินะ ข. พระรัฐบาล
ค. พระภัททิยะ ง. พระโสณกุฏิกัณณะ
คำตอบ : ก
๓๓. พระสาวกรูปใด ก่อนบวชมักพูดหักล้างคนอื่น จนใคร ๆ
ไม่อยากคบหาสมาคมด้วย ?
ก. พระโสณกุฏิกัณณะ ข. พระกุมารกัสสปะ
ค. พระปุณณชิ ง. พระมหาโกฏฐิตะ
คำตอบ : ง
๓๔. ใครทำหน้าที่วินิจฉัยอธิกรณ์ กรณีมารดาของกุมารกัสสปะ ?
ก. พระมหากัสสปะ ข. พระอานนท์
ค. พระสารีบุตร ง. พระอุบาลี
คำตอบ : ง
๓๕. พระสาวกรูปใด ก่อนบวชถูกล้อเลียนว่า เด็กไม่มีแม่ ?
ก. พระรัฐบาล ข. พระราธะ
ค. พระกุมารกัสสปะ ง. พระโกณฑธาน
คำตอบ : ค
๓๖. พระสาวกรูปใด ก่อนบวชมีความเชี่ยวชาญด้านดนตรี ?
ก. พระโสณโกฬิวิสะ ข. พระปิลินทวัจฉะ
ค. พระปุณณชิ ง. พระมหาโกฏฐิตะ
คำตอบ : ก
๓๗. พระสาวกรูปใด ชำนาญในมนต์เคาะกะโหลกศีรษะมนุษย์ ?
ก. พระพาหิยะ ข. พระสุภูติ
ค. พระสาคตะ ง. พระวังคีสะ
คำตอบ : ง
๓๘. พระสาวกรูปใด เป็นต้นบัญญัติในการห้ามดื่มสุรา ?
ก. พระสาคตะ ข. พระพากุละ
ค. พระสุภูติ ง. พระโสภิตะ
คำตอบ : ก
๓๙. พระสาวกรูปใด ได้ชื่อว่าปัจฉิมภวิกสัตว์ ผู้เกิดเป็นภพสุดท้าย ?
ก. พระสิวลี ข. พระพากุละ
ค. พระสุภูติ ง. พระราธะ
คำตอบ : ข
๔๐. พระพากุละไม่มีโรคภัยเบียดเบียน เพราะสาเหตุใด ?
ก. สร้างเจดีย์ถวาย ข. สร้างห้องสุขาถวาย
ค. ถวายยาเป็นทาน ง. ข้อ ข. และ ค. ถูก
คำตอบ : ง
ศาสนพิธี
๔๑. ระเบียบแบบแผนที่ผู้นับถือศาสนาพึงปฏิบัติ เรียกว่าอะไร ?
ก. ศาสนพิธี ข. บุญพิธี
ค. ทานพิธี ง. กุศลพิธี
คำตอบ : ก
๔๒. ข้อใด จัดเป็นงานอวมงคล ?
ก. ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ข. ทำบุญอุทิศผู้ตาย
ค. ทำบุญทอดกฐิน ง. ทำบุญฉลองเมรุ
คำตอบ : ข
๔๓. วันพระ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวันอะไร ?
ก. วันอุโบสถ ข. วันวัสสูปนายิกา
ค. วันธรรมสวนะ ง. วันปาฏิบท
คำตอบ : ค
๔๔. ผ้าที่โยงจากศพ เพื่อทำพิธีทอดผ้าบังสุกุล เรียกว่าอะไร ?
ก. ผ้าภูษามาลา ข. ผ้าภูษาโยง
ค. ผ้าบังสุกุล ง. ผ้าปูลาด
คำตอบ : ข
๔๕. วันเข้าพรรษา ตรงกับข้อใด ?
ก. ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๘ ข. ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘
ค. แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ง. แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๙
คำตอบ : ค
๔๖. วันมหาปวารณา ตรงกับข้อใด ?
ก. วันแสดงธรรม ข. วันอุโบสถ
ค. วันเข้าพรรษา ง. วันออกพรรษา
คำตอบ : ง
๔๗. ข้อใด ไม่ใช่อยู่ในบทพุทธานุสสติ ?
ก. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ข. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน
ค. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ ง. สนฺทิฏฺฐิโก อกาลิโก
๔๘. การถวายผ้าอาบน้ำฝน นิยมถวายในวันใด ?
ก. วันมาฆบูชา ข. วันวิสาขบูชา
ค. วันอัฏฐมีบูชา ง. วันอาสาฬหบูชา
คำตอบ : ง
๔๙. อุโบสถศีลข้อสุดท้าย ว่าด้วยการเว้นเรื่องใด ?
ก. บริโภคในเวลาวิกาล ข. ฟ้อนรำขับร้อง
ค. ทัดทรงดอกไม้ ง. ที่นั่งที่นอนสูงใหญ่
คำตอบ : ง
๕๐. การทอดกฐิน สิ้นสุดในวันใด ?
ก. วันลอยกระทง ข. วันสงกรานต์
ค. วันเข้าพรรษา ง. วันออกพรรษา
คำตอบ : ก
เฉลยโดยแม่กองธรรมสนามหลวง
คุรุธรรม
ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นโทปี พ.ศ.๒๕๕๐
๑. สมถกัมมัฏฐาน ตรงกับข้อใด ?
ก. อุบายสงบกาย ข. อุบายสงบวาจา
ค. อุบายสงบใจ ง. อุบายเรืองปัญญา
คำตอบ : ค
๒. กัมมัฏฐานข้อใด อบรมให้เกิดปัญญา ?
ก. สมถกัมมัฏฐาน ข. วิปัสสนากัมมัฏฐาน
ค. อสุภกัมมัฏฐาน ง. อนุสสติกัมมัฏฐาน
คำตอบ : ข
๓. ผู้หมั่นเจริญกัมมัฏฐาน ย่อมได้รับประโยชน์โดยตรงด้านใด ?
ก. จิตใจสงบ ข. มีสุขภาพดี
ค. ความจำดี ง. ขยันทำงาน
คำตอบ : ก
๔. สิ่งอันเป็นเหตุให้ใคร่ เรียกว่าอะไร ?
ก. วัตถุกาม ข. กิเลสกาม
ค. กามคุณ ง. กามฉันทะ
คำตอบ : ข
๕. ข้อใด ไม่จัดเป็นวัตถุกาม ?
ก. เกมส์ ข. ล๊อตเตอรี่
ค. เพลง ง. ความรัก
คำตอบ : ง
๖. ข้อใด จัดเป็นปฏิบัติบูชา ?
ก. ตักบาตรพระ ข. ถวายทาน
ค. ถวายพวงมาลัย ง. รักษาศีล
คำตอบ : ง
๗. ข้อใด จัดเป็นธัมมปฏิสันถาร ?
ก. ต้อนรับตามฐานะ ข. นำน้ำดื่มมาให้
ค. ให้หนังสือธรรมะ ง. ถามถึงธุระที่มา
คำตอบ : ก
๘. ข้อใด เป็นเหตุให้เกิดเจตสิกสุข สุขทางใจ ?
ก. รู้จักพอเพียง ข. มีการงานดี
ค. มีทรัพย์มาก ง. มีตำแหน่งสูง
คำตอบ : ก
๙. ผู้ถูกวิหิงสาวิตกครอบงำ มักมีพฤติกรรมเช่นไร ?
ก. ฝักใฝ่ในกาม ข. ปองร้ายผู้อื่น
ค. โลภอยากได้ ง. ทรมานสัตว์
คำตอบ : ง
๑๐. เมื่อถูกวิหิงสาวิตกครอบงำ จะบรรเทาได้อย่างไร ?
ก. เจริญเมตตา ข. เจริญกรุณา
ค. เจริญมุทิตา ง. เจริญอุเบกขา
คำตอบ : ข
๑๑. ไฟในข้อใด ทำให้คนหลงผิดเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ?
ก. ไฟคือราคะ ข. ไฟคือโทสะ
ค. ไฟคือโมหะ ง. ไฟคือตัณหา
คำตอบ : ค
๑๒. ประชาธิปไตยจะสมบูรณ์ ต้องมีอะไรเป็นพื้นฐาน ?
ก. อัตตาธิปเตยยะ ข. โลกาธิปเตยยะ
ค. ธัมมาธิปเตยยะ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ค
๑๓. การปกครองระบอบประชาธิปไตย สงเคราะห์เข้าในข้อใด ?
ก. อัตตาธิปเตยยะ ข. โลกาธิปเตยยะ
ค. ธัมมาธิปเตยยะ ง. อนาธิปเตยยะ
คำตอบ : ข
๑๔. ข้อใดเป็นความหมายของคำว่า ญาณ ?
ก. สมาธิชั้นสูง ข. ปัญญาหยั่งรู้
ค. มีอิทธิฤทธิ์ ง. การเข้าฌาน
คำตอบ : ข
๑๕. ข้อใด ไม่จัดเป็นตัณหา ?
ก. อยากมีบ้านใหม่ ข. อยากให้คนนับถือ
ค. อยากอยู่คนเดียว ง. อยากรักษาโรคร้าย
คำตอบ : ง
๑๖. ข้อใด เป็นโทษของตัณหา ?
ก. ให้เกิดทุกข์ ข. ให้มัวเมา
ค. ให้ยึดมั่นถือมั่น ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๑๗. ผู้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ซึ่งมาในรูปแบบต่างๆ เพราะ… ?
ก. เกิดความโลภ ข. ขาดปัญญา
ค. ข่มใจไว้ไม่ได้ ง. เชื่อคนง่าย
คำตอบ : ก
๑๘. ปาฏิหาริย์อะไร ทำให้คนละชั่วประพฤติดีได้ ?
ก. อาเทสนาปาฏิหาริย์ ข. อิทธิปาฏิหาริย์
ค. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ ง. ยมกปาฏิหาริย์
คำตอบ : ค
๑๙. พระอภิธรรมปิฎก ว่าด้วยเรื่องอะไร ?
ก. แสดงระเบียบปฏิบัติ ข. แสดงบุคคลาธิษฐาน
ค. แสดงธรรมาธิษฐาน ง. แสดงอิทธิปาฏิหารย์
คำตอบ : ง
๒๐. พระพุทธเจ้าแสดงธรรมประกาศพระศาสนา จัดเป็นจริยาใด ?
ก. อัตตัตถจริยา ข. โลกัตถจริยา
ค. ญาตัตถจริยา ง. พุทธัตถจริยา
คำตอบ : ง
๒๑. ข้อใด ไม่ใช่โลกัตถจริยา ?
ก. ตรวจดูสัตว์โลก ข. โปรดเวไนยสัตว์
ค. ตอบปัญหาเทวดา ง. โปรดพุทธบิดา
คำตอบ : ง
๒๒. ค้ายาบ้าแล้วถูกจับติดคุก สงเคราะห์เข้าในวัฏฏะข้อใด ?
ก. กิเลสวัฏฏ์ ข. กัมมวัฏฏ์
ค. วิปากวัฏฏ์ ง. สังสารวัฏฏ์
คำตอบ : ค
๒๓. เพราะเหตุใด มนุษย์จึงต้องเวียนว่ายตายเกิด ?
ก. ทำกรรมชั่ว ข. มีโลกนี้โลกหน้า
ค. รับผลกรรม ง. มีกิเลสกรรมวิบาก
คำตอบ : ง
๒๔. คำว่า สิกขา มีความหมายว่าอย่างไร ?
ก. เรียนหนังสือ ข. ฝึกหัดกายวาจาใจ
ค. รักษาความดี ง. เจริญสมาธิภาวนา
คำตอบ : ข
๒๕. สาระสำคัญของการศึกษาไตรสิกขา คืออะไร ?
ก. เป็นมนุษย์สมบูรณ์ ข. โลกสงบร่มเย็น
ค. โลกเจริญก้าวหน้า ง. ทำให้โลกพัฒนา
คำตอบ : ก
๒๖. การบำเพ็ญสมถกัมมัฏฐาน ตรงกับสิกขาข้อใด ?
ก. อธิสีลสิกขา ข. อธิจิตตสิกขา
ค. อธิปัญญาสิกขา ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ข
๒๗. ในอปัสเสนธรรม ข้อพิจารณาแล้วบรรเทา ตรงกับข้อใด ?
ก. งดเหล้าเข้าพรรษา ข. งดอบายมุข
ค. งดจองเวรต่อกัน ง. งดสูบบุหรี่
คำตอบ : ค
๒๘. ยาบ้าและสิ่งเสพติด พิจารณาแล้ว ควรทำอย่างไร ?
ก. เสพ ข. อดกลั้น
ค. เว้น ง. บรรเทา
คำตอบ : ค
๒๙. ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข จัดเป็นอัปปมัญญาข้อใด ?
ก. เมตตา ข. กรุณา
ค. มุทิตา ง. อุเบกขา
คำตอบ : ก
๓๐. มีจิตริษยาเมื่อเห็นคนอื่นได้ดี ชื่อว่าไม่มีอัปปมัญญาข้อใด ?
ก. เมตตา ข. กรุณา
ค. มุทิตา ง. อุเบกขา
คำตอบ : ค
๓๑. อัปปมัญญาข้อใด เป็นคุณให้เกิดความเที่ยงธรรม ?
ก. เมตตา ข. กรุณา
ค. มุทิตา ง. อุเบกขา
คำตอบ : ง
๓๒. ข้อใด กล่าวการเกิดในภพใหม่ของพระโสดาบันไม่ถูกต้อง ?
ก. ไม่เกิดในอบายภูมิ ข. เกิดไม่เกินเจ็ดชาติ
ค. เกิดใหม่เป็นโสดาบัน ง. เกิดใหม่เป็นปุถุชน
คำตอบ : ง
๓๓. ทำราคะ โทสะ โมหะ ให้เบาบาง เป็นคุณสมบัติของใคร ?
ก. พระโสดาบัน ข. พระอนาคามี
ค. พระสกทาคามี ง. พระอรหันต์
คำตอบ : ค
๓๔. โสดาบัน แปลว่าอะไร ?
ก. ผู้ไกลจากกิเลส ข. ผู้ประเสริฐสูงสุด
ค. ผู้ไม่มาโลกนี้อีก ง. ผู้ถึงกระแสนิพพาน
คำตอบ : ง
๓๕. กิเลสในข้อใด พระอนาคามีละได้เด็ดขาด ?
ก. กามราคะ ข. รูปราคะ
ค. อรูปราคะ ง. มานะ
คำตอบ : ก
๓๖. กิเลสที่เป็นดุจกระแสน้ำท่วมใจสัตว์ เรียกว่าอะไร ?
ก.โยคะ ข. โอฆะ
ค. อาสวะ ง. มานะ
คำตอบ : ข
๓๗. อริยสัจในข้อใด จัดว่าเป็น เหตุ ?
ก. ทุกข์ สมุทัย ข. สมุทัย นิโรธ
ค. สมุทัย มรรค ง. มรรค นิโรธ
คำตอบ : ค
๓๘. บุคคลที่พอแนะนำให้ตรัสรู้ตามได้ ตรงกับข้อใด ?
ก. อุคฆติตัญญู ข. วิปจิตัญญู
ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ
คำตอบ : ค
๓๙. อนุปุพพีกถาข้อใด ฟอกจิตไม่ให้เป็นคนโหดร้าย ?
ก. ทานกถา ข. สีลกถา
ค. สัคคกถา ง. กามาทีนวกถา
คำตอบ : ข
๔๐. บูชาพระคุณ ค้ำจุนพระศาสนา พาสู่ความสงบ จบแค่นิพพาน หมายถึงอนุปุพพีกถาข้อใด ?
ก. ทานกถา ข. สีลกถา
ค. สัคคกถา ง. เนกขัมมานิสังสกถา
คำตอบ : ง
๔๑. กลัวคนอื่นจะดีกว่า จัดเป็นมัจฉริยะใด ?
ก. กุลมัจฉริยะ ข. ลาภมัจฉริยะ
ค. วัณณมัจฉริยะ ง. ธัมมมัจฉริยะ
คำตอบ : ค
๔๒. เหตุใด ความตายจึงชื่อว่า มัจจุมาร ?
ก. เพราะเป็นเหตุตัดกิเลส ข. เพราะเป็นเหตุตัดทุกข์
ค. เพราะเป็นเหตุตัดชีวิต ง. เพราะเป็นเหตุตัดความดี
คำตอบ : ค
๔๓. เวทนา มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก. ความเจ็บปวด ข. ความรู้สึก
ค. ความเห็นใจ ง. ความสงสาร
คำตอบ : ข
๔๔. เมตตา เป็นสัปปายะแก่คนมีจริตอะไร ?
ก. ราคจริต ข. โทสจริต
ค. โมหจริต ง. วิตกจริต
คำตอบ : ข
๔๕. คนคิดฟุ้งซ่านจนนอนไม่หลับ ควรแก้ด้วยวิธีใด ?
ก. เจริญอานาปานสติ ข. เจริญมรณสติ
ค. เจริญเทวตานุสสติ ง. เจริญกายคตาสติ
คำตอบ : ก
๔๖. พระธรรมคุณข้อว่า สนฺทิฏฺฐิโก ตรงกับข้อใด ?
ก. ผู้บรรลุพึงเห็นเอง ข. ชนพึงรู้เฉพาะตน
ค. ควรเรียกให้มาดู ง. พึงน้อมเข้ามาในตน
คำตอบ : ก
๔๗. ความรู้คู่คุณธรรม ตรงกับพระพุทธคุณข้อใด ?
ก. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ข. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน
ค. สุคโต โลกวิทู ง. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ
คำตอบ : ข
๔๘. พระสงฆ์ได้ชื่อว่า อุชุปฏิปนฺโน เพราะปฏิบัติตนเช่นไร ?
ก. ปฏิบัติดีแล้ว ข. ปฏิบัติไม่ลวงโลก
ค. ปฏิบัติชอบ ง. ปฏิบัติสมควร
คำตอบ : ข
๔๙. โครงการทุนเล่าเรียนหลวง ที่พระราชทานแก่คณะสงฆ์ไทย
จัดเป็นบารมีใด ?
ก. ทานบารมี ข. ปัญญาบารมี
ค. อธิษฐานบารมี ง. เมตตาบารมี
คำตอบ : ก
๕๐. ยามบุญมาวาสนาช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก ตรงกับข้อใด ?
ก. กุศลชนกกรรม ข. กุศลอุปัตถัมภกกรรม
ค. กุศลอาสันนกรรม ง. กุศลอาจิณณกรรม
คำตอบ : ข
เฉลยโดยแม่กองธรรมสนามหลวง
คุรุธรรม
ก. อุบายสงบกาย ข. อุบายสงบวาจา
ค. อุบายสงบใจ ง. อุบายเรืองปัญญา
คำตอบ : ค
๒. กัมมัฏฐานข้อใด อบรมให้เกิดปัญญา ?
ก. สมถกัมมัฏฐาน ข. วิปัสสนากัมมัฏฐาน
ค. อสุภกัมมัฏฐาน ง. อนุสสติกัมมัฏฐาน
คำตอบ : ข
๓. ผู้หมั่นเจริญกัมมัฏฐาน ย่อมได้รับประโยชน์โดยตรงด้านใด ?
ก. จิตใจสงบ ข. มีสุขภาพดี
ค. ความจำดี ง. ขยันทำงาน
คำตอบ : ก
๔. สิ่งอันเป็นเหตุให้ใคร่ เรียกว่าอะไร ?
ก. วัตถุกาม ข. กิเลสกาม
ค. กามคุณ ง. กามฉันทะ
คำตอบ : ข
๕. ข้อใด ไม่จัดเป็นวัตถุกาม ?
ก. เกมส์ ข. ล๊อตเตอรี่
ค. เพลง ง. ความรัก
คำตอบ : ง
๖. ข้อใด จัดเป็นปฏิบัติบูชา ?
ก. ตักบาตรพระ ข. ถวายทาน
ค. ถวายพวงมาลัย ง. รักษาศีล
คำตอบ : ง
๗. ข้อใด จัดเป็นธัมมปฏิสันถาร ?
ก. ต้อนรับตามฐานะ ข. นำน้ำดื่มมาให้
ค. ให้หนังสือธรรมะ ง. ถามถึงธุระที่มา
คำตอบ : ก
๘. ข้อใด เป็นเหตุให้เกิดเจตสิกสุข สุขทางใจ ?
ก. รู้จักพอเพียง ข. มีการงานดี
ค. มีทรัพย์มาก ง. มีตำแหน่งสูง
คำตอบ : ก
๙. ผู้ถูกวิหิงสาวิตกครอบงำ มักมีพฤติกรรมเช่นไร ?
ก. ฝักใฝ่ในกาม ข. ปองร้ายผู้อื่น
ค. โลภอยากได้ ง. ทรมานสัตว์
คำตอบ : ง
๑๐. เมื่อถูกวิหิงสาวิตกครอบงำ จะบรรเทาได้อย่างไร ?
ก. เจริญเมตตา ข. เจริญกรุณา
ค. เจริญมุทิตา ง. เจริญอุเบกขา
คำตอบ : ข
๑๑. ไฟในข้อใด ทำให้คนหลงผิดเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ?
ก. ไฟคือราคะ ข. ไฟคือโทสะ
ค. ไฟคือโมหะ ง. ไฟคือตัณหา
คำตอบ : ค
๑๒. ประชาธิปไตยจะสมบูรณ์ ต้องมีอะไรเป็นพื้นฐาน ?
ก. อัตตาธิปเตยยะ ข. โลกาธิปเตยยะ
ค. ธัมมาธิปเตยยะ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ค
๑๓. การปกครองระบอบประชาธิปไตย สงเคราะห์เข้าในข้อใด ?
ก. อัตตาธิปเตยยะ ข. โลกาธิปเตยยะ
ค. ธัมมาธิปเตยยะ ง. อนาธิปเตยยะ
คำตอบ : ข
๑๔. ข้อใดเป็นความหมายของคำว่า ญาณ ?
ก. สมาธิชั้นสูง ข. ปัญญาหยั่งรู้
ค. มีอิทธิฤทธิ์ ง. การเข้าฌาน
คำตอบ : ข
๑๕. ข้อใด ไม่จัดเป็นตัณหา ?
ก. อยากมีบ้านใหม่ ข. อยากให้คนนับถือ
ค. อยากอยู่คนเดียว ง. อยากรักษาโรคร้าย
คำตอบ : ง
๑๖. ข้อใด เป็นโทษของตัณหา ?
ก. ให้เกิดทุกข์ ข. ให้มัวเมา
ค. ให้ยึดมั่นถือมั่น ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๑๗. ผู้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ซึ่งมาในรูปแบบต่างๆ เพราะ… ?
ก. เกิดความโลภ ข. ขาดปัญญา
ค. ข่มใจไว้ไม่ได้ ง. เชื่อคนง่าย
คำตอบ : ก
๑๘. ปาฏิหาริย์อะไร ทำให้คนละชั่วประพฤติดีได้ ?
ก. อาเทสนาปาฏิหาริย์ ข. อิทธิปาฏิหาริย์
ค. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ ง. ยมกปาฏิหาริย์
คำตอบ : ค
๑๙. พระอภิธรรมปิฎก ว่าด้วยเรื่องอะไร ?
ก. แสดงระเบียบปฏิบัติ ข. แสดงบุคคลาธิษฐาน
ค. แสดงธรรมาธิษฐาน ง. แสดงอิทธิปาฏิหารย์
คำตอบ : ง
๒๐. พระพุทธเจ้าแสดงธรรมประกาศพระศาสนา จัดเป็นจริยาใด ?
ก. อัตตัตถจริยา ข. โลกัตถจริยา
ค. ญาตัตถจริยา ง. พุทธัตถจริยา
คำตอบ : ง
๒๑. ข้อใด ไม่ใช่โลกัตถจริยา ?
ก. ตรวจดูสัตว์โลก ข. โปรดเวไนยสัตว์
ค. ตอบปัญหาเทวดา ง. โปรดพุทธบิดา
คำตอบ : ง
๒๒. ค้ายาบ้าแล้วถูกจับติดคุก สงเคราะห์เข้าในวัฏฏะข้อใด ?
ก. กิเลสวัฏฏ์ ข. กัมมวัฏฏ์
ค. วิปากวัฏฏ์ ง. สังสารวัฏฏ์
คำตอบ : ค
๒๓. เพราะเหตุใด มนุษย์จึงต้องเวียนว่ายตายเกิด ?
ก. ทำกรรมชั่ว ข. มีโลกนี้โลกหน้า
ค. รับผลกรรม ง. มีกิเลสกรรมวิบาก
คำตอบ : ง
๒๔. คำว่า สิกขา มีความหมายว่าอย่างไร ?
ก. เรียนหนังสือ ข. ฝึกหัดกายวาจาใจ
ค. รักษาความดี ง. เจริญสมาธิภาวนา
คำตอบ : ข
๒๕. สาระสำคัญของการศึกษาไตรสิกขา คืออะไร ?
ก. เป็นมนุษย์สมบูรณ์ ข. โลกสงบร่มเย็น
ค. โลกเจริญก้าวหน้า ง. ทำให้โลกพัฒนา
คำตอบ : ก
๒๖. การบำเพ็ญสมถกัมมัฏฐาน ตรงกับสิกขาข้อใด ?
ก. อธิสีลสิกขา ข. อธิจิตตสิกขา
ค. อธิปัญญาสิกขา ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ข
๒๗. ในอปัสเสนธรรม ข้อพิจารณาแล้วบรรเทา ตรงกับข้อใด ?
ก. งดเหล้าเข้าพรรษา ข. งดอบายมุข
ค. งดจองเวรต่อกัน ง. งดสูบบุหรี่
คำตอบ : ค
๒๘. ยาบ้าและสิ่งเสพติด พิจารณาแล้ว ควรทำอย่างไร ?
ก. เสพ ข. อดกลั้น
ค. เว้น ง. บรรเทา
คำตอบ : ค
๒๙. ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข จัดเป็นอัปปมัญญาข้อใด ?
ก. เมตตา ข. กรุณา
ค. มุทิตา ง. อุเบกขา
คำตอบ : ก
๓๐. มีจิตริษยาเมื่อเห็นคนอื่นได้ดี ชื่อว่าไม่มีอัปปมัญญาข้อใด ?
ก. เมตตา ข. กรุณา
ค. มุทิตา ง. อุเบกขา
คำตอบ : ค
๓๑. อัปปมัญญาข้อใด เป็นคุณให้เกิดความเที่ยงธรรม ?
ก. เมตตา ข. กรุณา
ค. มุทิตา ง. อุเบกขา
คำตอบ : ง
๓๒. ข้อใด กล่าวการเกิดในภพใหม่ของพระโสดาบันไม่ถูกต้อง ?
ก. ไม่เกิดในอบายภูมิ ข. เกิดไม่เกินเจ็ดชาติ
ค. เกิดใหม่เป็นโสดาบัน ง. เกิดใหม่เป็นปุถุชน
คำตอบ : ง
๓๓. ทำราคะ โทสะ โมหะ ให้เบาบาง เป็นคุณสมบัติของใคร ?
ก. พระโสดาบัน ข. พระอนาคามี
ค. พระสกทาคามี ง. พระอรหันต์
คำตอบ : ค
๓๔. โสดาบัน แปลว่าอะไร ?
ก. ผู้ไกลจากกิเลส ข. ผู้ประเสริฐสูงสุด
ค. ผู้ไม่มาโลกนี้อีก ง. ผู้ถึงกระแสนิพพาน
คำตอบ : ง
๓๕. กิเลสในข้อใด พระอนาคามีละได้เด็ดขาด ?
ก. กามราคะ ข. รูปราคะ
ค. อรูปราคะ ง. มานะ
คำตอบ : ก
๓๖. กิเลสที่เป็นดุจกระแสน้ำท่วมใจสัตว์ เรียกว่าอะไร ?
ก.โยคะ ข. โอฆะ
ค. อาสวะ ง. มานะ
คำตอบ : ข
๓๗. อริยสัจในข้อใด จัดว่าเป็น เหตุ ?
ก. ทุกข์ สมุทัย ข. สมุทัย นิโรธ
ค. สมุทัย มรรค ง. มรรค นิโรธ
คำตอบ : ค
๓๘. บุคคลที่พอแนะนำให้ตรัสรู้ตามได้ ตรงกับข้อใด ?
ก. อุคฆติตัญญู ข. วิปจิตัญญู
ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ
คำตอบ : ค
๓๙. อนุปุพพีกถาข้อใด ฟอกจิตไม่ให้เป็นคนโหดร้าย ?
ก. ทานกถา ข. สีลกถา
ค. สัคคกถา ง. กามาทีนวกถา
คำตอบ : ข
๔๐. บูชาพระคุณ ค้ำจุนพระศาสนา พาสู่ความสงบ จบแค่นิพพาน หมายถึงอนุปุพพีกถาข้อใด ?
ก. ทานกถา ข. สีลกถา
ค. สัคคกถา ง. เนกขัมมานิสังสกถา
คำตอบ : ง
๔๑. กลัวคนอื่นจะดีกว่า จัดเป็นมัจฉริยะใด ?
ก. กุลมัจฉริยะ ข. ลาภมัจฉริยะ
ค. วัณณมัจฉริยะ ง. ธัมมมัจฉริยะ
คำตอบ : ค
๔๒. เหตุใด ความตายจึงชื่อว่า มัจจุมาร ?
ก. เพราะเป็นเหตุตัดกิเลส ข. เพราะเป็นเหตุตัดทุกข์
ค. เพราะเป็นเหตุตัดชีวิต ง. เพราะเป็นเหตุตัดความดี
คำตอบ : ค
๔๓. เวทนา มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก. ความเจ็บปวด ข. ความรู้สึก
ค. ความเห็นใจ ง. ความสงสาร
คำตอบ : ข
๔๔. เมตตา เป็นสัปปายะแก่คนมีจริตอะไร ?
ก. ราคจริต ข. โทสจริต
ค. โมหจริต ง. วิตกจริต
คำตอบ : ข
๔๕. คนคิดฟุ้งซ่านจนนอนไม่หลับ ควรแก้ด้วยวิธีใด ?
ก. เจริญอานาปานสติ ข. เจริญมรณสติ
ค. เจริญเทวตานุสสติ ง. เจริญกายคตาสติ
คำตอบ : ก
๔๖. พระธรรมคุณข้อว่า สนฺทิฏฺฐิโก ตรงกับข้อใด ?
ก. ผู้บรรลุพึงเห็นเอง ข. ชนพึงรู้เฉพาะตน
ค. ควรเรียกให้มาดู ง. พึงน้อมเข้ามาในตน
คำตอบ : ก
๔๗. ความรู้คู่คุณธรรม ตรงกับพระพุทธคุณข้อใด ?
ก. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ข. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน
ค. สุคโต โลกวิทู ง. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ
คำตอบ : ข
๔๘. พระสงฆ์ได้ชื่อว่า อุชุปฏิปนฺโน เพราะปฏิบัติตนเช่นไร ?
ก. ปฏิบัติดีแล้ว ข. ปฏิบัติไม่ลวงโลก
ค. ปฏิบัติชอบ ง. ปฏิบัติสมควร
คำตอบ : ข
๔๙. โครงการทุนเล่าเรียนหลวง ที่พระราชทานแก่คณะสงฆ์ไทย
จัดเป็นบารมีใด ?
ก. ทานบารมี ข. ปัญญาบารมี
ค. อธิษฐานบารมี ง. เมตตาบารมี
คำตอบ : ก
๕๐. ยามบุญมาวาสนาช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก ตรงกับข้อใด ?
ก. กุศลชนกกรรม ข. กุศลอุปัตถัมภกกรรม
ค. กุศลอาสันนกรรม ง. กุศลอาจิณณกรรม
คำตอบ : ข
เฉลยโดยแม่กองธรรมสนามหลวง
คุรุธรรม
วิชาอุโบสถศีล (วินัย) ธรรมศึกษาชั้นโท ปี พ.ศ.๒๕๔๖
๑. คำว่า “ อุโบสถศีล ” หมายถึงศีลอะไร ?
ก. ศีล ๕ ข. ศีล ๘
ค. ศีล ๑๐ ง. ศีล ๒๒๗
คำตอบ : ข
๒. การรักษาอุโบสถศีล จัดเข้าในพิธีใด ?
ก. บุญพิธี ข. กุศลพิธี
ค. ทานพิธี ง. ปกิณกะ
คำตอบ : ข
๓. ใครกราบทูลพระผู้มีพระภาค ให้ทรงบัญญัติอุโบสถ
ก. พระสารีบุตร ข. พระโมคคัลลานะ
ค. พระเจ้าพิมพิสาร ง. พระเจ้าอชาตศัตรู
คำตอบ : ค
๔. ข้อใด กล่าวถึงพิธีรักษาอุโบสถได้ถูกต้อง
ก. ประกาศอุโบสถแล้ว อาราธนาศีล
ข. อาราธนาศีลแล้ว ประกาศอุโบสถ
ค. อาราธนาศีลแล้ว อธิษฐานอุโบสถ
ง. อธิษฐานอุโบสถแล้ว ประกาศอุโบสถ
คำตอบ : ก
๕. อุโบสถศีล มี ๘ …… ?
ก. ข้อ ข. หมวด
ค. สิกขา ง. สิกขาบท
คำตอบ : ง
๖. ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีล พึงปฏิบัติตนอย่างไร ?
ก. ให้ทาน ข. ฟังเทศน์
ค. นั่งสมาธิ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๗. ข้อใด เป็นวิธีการรักษาอุโบสถนอกพุทธกาล ?
ก. รักษาศีล ๕ ข. อดอาหาร
ค. สมาทานศีล ๘ ง. รับสรณคมน์
คำตอบ : ข
๘. ข้อใด เป็นวิธีการรักษาอุโบสถสมัยพุทธกาล ?
ก. รักษาศีล ๘ ข. อดอาหาร
ค. รับสรณคมน์ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๙. อาการเช่นไร เรียกว่า การรักษาศีล ?
ก. การละเมิดข้อห้าม ข. การไม่พูดคุยกัน
ค. การเว้นจากข้อห้าม ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ค
๑๐. อุโบสถใด ที่นิยมสมาทานรักษาในวันพระข้างขึ้น ข้างแรม ?
ก. ปกติอุโบสถ ข. อริยอุโบสถ
ค. นิคัณฐอุโบสถ ง. สังฆอุโบสถ
คำตอบ : ก
๑๑. ปาฏิหาริยอุโบสถ กำหนดให้สมาทานรักษาช่วงฤดูใด ?
ก. ฤดูร้อน ข. ฤดูฝน
ค. ฤดูหนาว ง. ฤดูใบไม้ผลิ
คำตอบ : ข
๑๒. ปาฏิหาริยอุโบสถ กำหนดให้สมาทานรักษานานเท่าไร ?
ก. วันหนึ่งคืนหนึ่ง ข. คราวละ ๓ วัน
ค. ตลอด ๓ เดือน ง. ตลอด ๔ เดือน
คำตอบ : ง
๑๓. ปกติอุโบสถ กำหนดให้สมาทานรักษานานเท่าไร ?
ก. วันหนึ่งคืนหนึ่ง ข. คราวละ ๓ วัน
ค. ตลอด ๓ เดือน ง. ตลอด ๔ เดือน
คำตอบ : ก
๑๔. ข้อใด ไม่ตรงกับวันในปฏิชาครอุโบสถ
ก. วันรับ ข. วันส่ง
ค. วันรักษา ง. วันลา
คำตอบ : ง
๑๕. ในปัญจุโปสถชาดก ใครรักษาอุโบสถเพื่อข่มความโกรธ ?
ก. ฤาษี ข. งู
ค. หมี ง. สุนัขจิ้งจอก
คำตอบ : ข
๑๖. ในปัญจุโปสถชาดก ใครรักษาอุโบสถเพื่อข่มความโลภ ?
ก. ฤาษี ข. นกพิราบ
ค. หมี ง. สุนัขจิ้งจอก
คำตอบ : ง
๑๗. เมื่อถึงวันอุโบสถ ใครสมาทานรักษาศีลอุโบสถ ?
ก. ภิกษุ ข. สามเณร
ค. อุบาสก อุบาสิกา ง. คนทั่วไป
คำตอบ : ค
๑๘. ข้อใด ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถไม่พึงกระทำ ?
ก. นับอายุและวัย ข. สนทนาถึงลูกถึงคน
ค. ฟังธรรม ง. เล่าเรื่องพุทธประวัติ
คำตอบ : ข
๑๙. คำประกาศอุโบสถ กำหนดให้ทำต่อจากขั้นตอนใด
ก. บูชาพระรัตนตรัย ข. รับสรณคมน์
ข. อาราธนาศีล ง. สมาทานศีล
คำตอบ : ก
๒๐. คำว่า พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ เป็นคำอะไร
ก. คำบูชาพระรัตนตรัย
ข. คำประกาศอุโบสถ
ค. คำรับสรณคมน์
ง. คำอาราธนาศีล
คำตอบ : ค
๒๑. ข้อใด ไม่มีความจำเป็นในการรักษาอุโบสถศีล ?
ก. รับสรณคมน์
ข. สมาทานศีล ๘
ค. สมาทานรักษาเองก็ได้
ง. ต้องสมาทานรักษาที่วัด
คำตอบ : ง
๒๒. การแสดงธรรมกัณฑ์อุโบสถ ตรงกับการเทศน์ในข้อใด ?
ก. เทศน์มหาชาติ ข. เทศน์ตามกาลนิยม
ค. เทศน์งานมงคล ง. เทศน์งานอวมงคล
คำตอบ : ข
๒๓. ข้อใด ไม่ใช่องค์ประกอบทำให้ศีลข้อปาณาติบาตขาด ?
ก. สัตว์มีชีวิต ข. รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
ค. จิตคิดจะฆ่า ง. สัตว์ตายด้วยความคิดนั้น
คำตอบ : ง
๒๔. ข้อใด ไม่ใช่องค์ประกอบทำให้ศีลข้ออทินนาทานขาด ?
ก. ทรัพย์มีเจ้าของ
ข. รู้ว่าทรัพย์มีเจ้าของ
ค. จิตคิดจะลักทรัพย์นั้น
ง. ลักมาได้เพราะคนอื่นช่วย
คำตอบ : ง
๒๕. คำว่า อพรหมจรรย์ หมายถึงข้อใด ?
ก. การเสพอสัทธรรม ข. การเสพยาบ้า
ค. การเสพบัณฑิต ง. การเสพคนพาล
คำตอบ : ก
๒๖. ข้อใด ไม่ใช่องค์ประกอบทำให้ศีลข้อมุสาวาทขาด ?
ก. เรื่องไม่จริง ข. รู้ว่าเรื่องไม่จริง
ค. จิตคิดจะพูดให้ผิด ง. คนอื่นเข้าใจ
คำตอบ : ข
๒๗. ข้อใด ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีลบริโภคในเวลาวิกาลไม่ได้ ?
ก. น้ำซุป ข. เนยข้น
ค. น้ำผึ้ง ง. น้ำอ้อย
คำตอบ : ก
๒๘. ข้อใด ไม่ผิดอุโบสถศีลข้อที่ ๗ ?
ก. ทาน้ำหอมดับกลิ่นตัว ข. ทาน้ำมันให้ผมอยู่ทรง
ค. ทาแป้งรักษาโรคคัน ง. ทาแป้งดับความร้อน
คำตอบ : ค
๒๙. ในปัญจุโปสถชาดก ฤาษีเห็นว่า อะไรเป็นคุณใหญ่ ในโลกนี้ ?
ก. ชาติตระกูล ข. ศีล
ค. เมตตา ง. ขันติ
คำตอบ : ข
๓๐. อัชฌาจารณียวัตถุ (วัตถุที่จะพึงประพฤติล่วง) เป็นองค์ของอุโบสถศีลข้อใด ?
ก. ปาณาติบาต ข. อทินนาทาน
ค. อพรหมจรรย์ ง. มุสาวาท
คำตอบ : ค
๓๑. ข้อใด ไม่ใช่อุโบสถศีล ?
ก. ไม่ใช้เครื่องหอม ข. ไม่ดูการละเล่น
ค. ไม่จับเงินทอง ง. ไม่ใช้เครื่องลาดวิจิตร
คำตอบ : ค
๓๒. อุโบสถของนักบวชนอกพระพุทธศาสนา ตรงกับข้อใด ?
ก. ปฏิชาครอุโบสถ ข. นิคัณฐอุโบสถ
ค. โคปาลกอุโบสถ ง. ปาฏิหาริยอุโบสถ
คำตอบ : ข
๓๓. อุโบสถใด ให้ผู้สมาทานรักษาได้รับผลมากที่สุด ?
ก. โคปาลกอุโบสถ ข. นิคัณฐอุโบสถ
ค. อริยอุโบสถ ง. ไม่มีข้อถูก
คำตอบ : ค
๓๔. ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีลเช่นไร ได้ผลน้อยที่สุด ?
ก. ต้องการชื่อเสียง ข. ต้องการผลบุญ
ค. ต้องการความสงบ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ก
๓๕. พระผู้มีพระภาค ตรัสไว้ในอุโบสถสูตรว่า สิ่งที่จะชำระจิตใจที่เศร้าหมองด้วยอำนาจ
กิเลสให้บริสุทธิ์ได้นั้น คืออะไร ?
ก. ถวายสังฆทาน ข. รดน้ำมนต์
ค. ไหว้พระ ๙ วัด ง. นึกถึงศีล
คำตอบ : ง
๓๖. ข้อใด ไม่ใช่การรักษาอุโบสถศีลตามพระอรหันต์ ?
ก. ละปาณาติบาต ข. ละอทินนาทาน
ค. ละอพรหมจรรย์ ง. ละทุกข์
คำตอบ : ง
๓๗. พระอรหันต์ได้ชื่อว่ามีถ้อยคำมั่นคง ไม่ลวงโลก เพราะศีลข้อใด ?
ก. เว้นอาหารในเวลาวิกาล
ข. ประพฤติพรหมจรรย์
ค. เว้นจากการพูดเท็จ
ง. เว้นจากการดื่มน้ำเมา
คำตอบ : ค
๓๘. ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีล มีอาการเหมือนคนรับจ้างเลี้ยงโค ตรงกับข้อใด ?
ก. พูดเรื่องกิน ข. พูดเรื่องลูกหลาน
ค. มีแต่ความอยากได้ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๓๙. ผู้สมาทานปฏิชาครอุโบสถ ต้องรักษาศีลอะไร ?
ก. ศีล ๕ ข. ศีล ๘
ค. ศีล ๑๐ ง. ศีล ๓๑๑
คำตอบ : ข
๔๐. คำว่า “ สรณคมน์ ” คืออะไร ?
ก. รัตนะ ๓ ข. โอวาท ๓
ค. อริยสัจ ๔ ง. ศีล ๘
คำตอบ : ก
๔๑. คำว่า “ สีเลน สุคตึ ยนฺติ ” เป็นคำอะไร ?
ก. คำอาราธนาศีล ข. คำลาศีล
ค. คำสมาทานศีล ง. คำบอกอานิสงส์ศีล
คำตอบ : ง
๔๒. เมื่อพระสงฆ์ว่า “ ติสรณคมนํ นิฏฺฐิตํ ” ผู้สมาทานอุโบสถศีลพึงรับพร้อมกัน
ว่าอย่างไร ?
ก. อาม ภนฺเต ข. สาธุ ภนฺเต
ค. มยํ ภนฺเต ง. อิมานิ มยํ ภนฺเต
คำตอบ : ก
๔๓. ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีล พึงรับประทานอาหารให้เสร็จเวลาใด ?
ก. ก่อนเพล ข. ก่อนเที่ยง
ค. เที่ยงครึ่ง ง. ก่อนบ่ายโมง
คำตอบ : ข
๔๔. คำพูดเช่นใด ห้ามผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีลพูด ?
ก. คำหยาบ ข. คำเพ้อเจ้อ
ค. คำส่อเสียด ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๔๕. เพราะเหตุใด ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีล จึงต้องงดดื่มสุรา ?
ก. เพราะเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
ข. เพราะเป็นข้าศึกแห่งพรหมจรรย์
ค. เพราะเป็นที่ตั้งแห่งความกังวล
ง. เพราะเป็นเหตุให้คนอื่นไม่เชื่อถือ
คำตอบ : ก
๔๖. เพราะเหตุใด ผู้รักษาอุโบสถศีล จึงต้องงดการประดับร่างกาย ?
ก. เพราะเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
ข. เพราะเป็นที่ตั้งแห่งความกังวล
ค. เพราะเป็นข้าศึกแก่กุศล
ง. เพราะเป็นข้าศึกแก่อกุศล
คำตอบ : ค
๔๗. คำว่า “ วางทอนไม้ ” ในอุโบสถสูตร มีความหมายว่าอย่างไร ?
ก. งดฆ่าสัตว์ ข. งดลักทรัพย์
ค. งดจี้ปล้น ง. งดคบคนพาล
คำตอบ : ก
๔๘. ผู้รักษาอุโบสถศีลไม่รู้ว่าน้ำมีตัวสัตว์ ดื่มเข้าไป ศีลขาดหรือไม่ ?
ก. ขาด เพราะสัตว์มีชีวิต
ข. ขาด เพราะสัตว์ตาย
ค. ไม่ขาด เพราะไม่รู้ว่ามีตัวสัตว์
ง. ไม่ขาด เพราะต้องรักษาชีวิต
คำตอบ : ค
๔๙. เมื่อรักษาอุโบสถศีลครบวันหนึ่งคืนหนึ่งแล้ว พึงปฏิบัติอย่างไร ?
ก. กล่าวคำลาพระรัตนตรัย
ข. กล่าวคำลาศีล
ค. กล่าวคำลาสิกขา
ง. การสมาทานสิ้นสุดเอง
คำตอบ : ง
๕๐. การรักษาอุโบสถศีล มีประโยชน์อย่างไร
ก. ละความชั่วได้ ข. เป็นที่ตั้งแห่งสมาธิ
ค. เป็นที่ตั้งแห่งปัญญา ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
ผู้ออกข้อสอบ
: ๑. พระศรีรัตนโมลี วัดพระปฐมเจดีย์
๒. พระปิฎกโกศล วัดพระพิเรนทร์
๓. พระมหาสมเจตต์ อธิจิตฺโต ป.ธ.๙
วัดสุทัศนเทพวราราม
ตรวจ/ปรับปรุง : สนามหลวงแผนกธรรม
คุรุธรรม
ก. ศีล ๕ ข. ศีล ๘
ค. ศีล ๑๐ ง. ศีล ๒๒๗
คำตอบ : ข
๒. การรักษาอุโบสถศีล จัดเข้าในพิธีใด ?
ก. บุญพิธี ข. กุศลพิธี
ค. ทานพิธี ง. ปกิณกะ
คำตอบ : ข
๓. ใครกราบทูลพระผู้มีพระภาค ให้ทรงบัญญัติอุโบสถ
ก. พระสารีบุตร ข. พระโมคคัลลานะ
ค. พระเจ้าพิมพิสาร ง. พระเจ้าอชาตศัตรู
คำตอบ : ค
๔. ข้อใด กล่าวถึงพิธีรักษาอุโบสถได้ถูกต้อง
ก. ประกาศอุโบสถแล้ว อาราธนาศีล
ข. อาราธนาศีลแล้ว ประกาศอุโบสถ
ค. อาราธนาศีลแล้ว อธิษฐานอุโบสถ
ง. อธิษฐานอุโบสถแล้ว ประกาศอุโบสถ
คำตอบ : ก
๕. อุโบสถศีล มี ๘ …… ?
ก. ข้อ ข. หมวด
ค. สิกขา ง. สิกขาบท
คำตอบ : ง
๖. ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีล พึงปฏิบัติตนอย่างไร ?
ก. ให้ทาน ข. ฟังเทศน์
ค. นั่งสมาธิ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๗. ข้อใด เป็นวิธีการรักษาอุโบสถนอกพุทธกาล ?
ก. รักษาศีล ๕ ข. อดอาหาร
ค. สมาทานศีล ๘ ง. รับสรณคมน์
คำตอบ : ข
๘. ข้อใด เป็นวิธีการรักษาอุโบสถสมัยพุทธกาล ?
ก. รักษาศีล ๘ ข. อดอาหาร
ค. รับสรณคมน์ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๙. อาการเช่นไร เรียกว่า การรักษาศีล ?
ก. การละเมิดข้อห้าม ข. การไม่พูดคุยกัน
ค. การเว้นจากข้อห้าม ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ค
๑๐. อุโบสถใด ที่นิยมสมาทานรักษาในวันพระข้างขึ้น ข้างแรม ?
ก. ปกติอุโบสถ ข. อริยอุโบสถ
ค. นิคัณฐอุโบสถ ง. สังฆอุโบสถ
คำตอบ : ก
๑๑. ปาฏิหาริยอุโบสถ กำหนดให้สมาทานรักษาช่วงฤดูใด ?
ก. ฤดูร้อน ข. ฤดูฝน
ค. ฤดูหนาว ง. ฤดูใบไม้ผลิ
คำตอบ : ข
๑๒. ปาฏิหาริยอุโบสถ กำหนดให้สมาทานรักษานานเท่าไร ?
ก. วันหนึ่งคืนหนึ่ง ข. คราวละ ๓ วัน
ค. ตลอด ๓ เดือน ง. ตลอด ๔ เดือน
คำตอบ : ง
๑๓. ปกติอุโบสถ กำหนดให้สมาทานรักษานานเท่าไร ?
ก. วันหนึ่งคืนหนึ่ง ข. คราวละ ๓ วัน
ค. ตลอด ๓ เดือน ง. ตลอด ๔ เดือน
คำตอบ : ก
๑๔. ข้อใด ไม่ตรงกับวันในปฏิชาครอุโบสถ
ก. วันรับ ข. วันส่ง
ค. วันรักษา ง. วันลา
คำตอบ : ง
๑๕. ในปัญจุโปสถชาดก ใครรักษาอุโบสถเพื่อข่มความโกรธ ?
ก. ฤาษี ข. งู
ค. หมี ง. สุนัขจิ้งจอก
คำตอบ : ข
๑๖. ในปัญจุโปสถชาดก ใครรักษาอุโบสถเพื่อข่มความโลภ ?
ก. ฤาษี ข. นกพิราบ
ค. หมี ง. สุนัขจิ้งจอก
คำตอบ : ง
๑๗. เมื่อถึงวันอุโบสถ ใครสมาทานรักษาศีลอุโบสถ ?
ก. ภิกษุ ข. สามเณร
ค. อุบาสก อุบาสิกา ง. คนทั่วไป
คำตอบ : ค
๑๘. ข้อใด ผู้สมาทานรักษาศีลอุโบสถไม่พึงกระทำ ?
ก. นับอายุและวัย ข. สนทนาถึงลูกถึงคน
ค. ฟังธรรม ง. เล่าเรื่องพุทธประวัติ
คำตอบ : ข
๑๙. คำประกาศอุโบสถ กำหนดให้ทำต่อจากขั้นตอนใด
ก. บูชาพระรัตนตรัย ข. รับสรณคมน์
ข. อาราธนาศีล ง. สมาทานศีล
คำตอบ : ก
๒๐. คำว่า พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ เป็นคำอะไร
ก. คำบูชาพระรัตนตรัย
ข. คำประกาศอุโบสถ
ค. คำรับสรณคมน์
ง. คำอาราธนาศีล
คำตอบ : ค
๒๑. ข้อใด ไม่มีความจำเป็นในการรักษาอุโบสถศีล ?
ก. รับสรณคมน์
ข. สมาทานศีล ๘
ค. สมาทานรักษาเองก็ได้
ง. ต้องสมาทานรักษาที่วัด
คำตอบ : ง
๒๒. การแสดงธรรมกัณฑ์อุโบสถ ตรงกับการเทศน์ในข้อใด ?
ก. เทศน์มหาชาติ ข. เทศน์ตามกาลนิยม
ค. เทศน์งานมงคล ง. เทศน์งานอวมงคล
คำตอบ : ข
๒๓. ข้อใด ไม่ใช่องค์ประกอบทำให้ศีลข้อปาณาติบาตขาด ?
ก. สัตว์มีชีวิต ข. รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
ค. จิตคิดจะฆ่า ง. สัตว์ตายด้วยความคิดนั้น
คำตอบ : ง
๒๔. ข้อใด ไม่ใช่องค์ประกอบทำให้ศีลข้ออทินนาทานขาด ?
ก. ทรัพย์มีเจ้าของ
ข. รู้ว่าทรัพย์มีเจ้าของ
ค. จิตคิดจะลักทรัพย์นั้น
ง. ลักมาได้เพราะคนอื่นช่วย
คำตอบ : ง
๒๕. คำว่า อพรหมจรรย์ หมายถึงข้อใด ?
ก. การเสพอสัทธรรม ข. การเสพยาบ้า
ค. การเสพบัณฑิต ง. การเสพคนพาล
คำตอบ : ก
๒๖. ข้อใด ไม่ใช่องค์ประกอบทำให้ศีลข้อมุสาวาทขาด ?
ก. เรื่องไม่จริง ข. รู้ว่าเรื่องไม่จริง
ค. จิตคิดจะพูดให้ผิด ง. คนอื่นเข้าใจ
คำตอบ : ข
๒๗. ข้อใด ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีลบริโภคในเวลาวิกาลไม่ได้ ?
ก. น้ำซุป ข. เนยข้น
ค. น้ำผึ้ง ง. น้ำอ้อย
คำตอบ : ก
๒๘. ข้อใด ไม่ผิดอุโบสถศีลข้อที่ ๗ ?
ก. ทาน้ำหอมดับกลิ่นตัว ข. ทาน้ำมันให้ผมอยู่ทรง
ค. ทาแป้งรักษาโรคคัน ง. ทาแป้งดับความร้อน
คำตอบ : ค
๒๙. ในปัญจุโปสถชาดก ฤาษีเห็นว่า อะไรเป็นคุณใหญ่ ในโลกนี้ ?
ก. ชาติตระกูล ข. ศีล
ค. เมตตา ง. ขันติ
คำตอบ : ข
๓๐. อัชฌาจารณียวัตถุ (วัตถุที่จะพึงประพฤติล่วง) เป็นองค์ของอุโบสถศีลข้อใด ?
ก. ปาณาติบาต ข. อทินนาทาน
ค. อพรหมจรรย์ ง. มุสาวาท
คำตอบ : ค
๓๑. ข้อใด ไม่ใช่อุโบสถศีล ?
ก. ไม่ใช้เครื่องหอม ข. ไม่ดูการละเล่น
ค. ไม่จับเงินทอง ง. ไม่ใช้เครื่องลาดวิจิตร
คำตอบ : ค
๓๒. อุโบสถของนักบวชนอกพระพุทธศาสนา ตรงกับข้อใด ?
ก. ปฏิชาครอุโบสถ ข. นิคัณฐอุโบสถ
ค. โคปาลกอุโบสถ ง. ปาฏิหาริยอุโบสถ
คำตอบ : ข
๓๓. อุโบสถใด ให้ผู้สมาทานรักษาได้รับผลมากที่สุด ?
ก. โคปาลกอุโบสถ ข. นิคัณฐอุโบสถ
ค. อริยอุโบสถ ง. ไม่มีข้อถูก
คำตอบ : ค
๓๔. ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีลเช่นไร ได้ผลน้อยที่สุด ?
ก. ต้องการชื่อเสียง ข. ต้องการผลบุญ
ค. ต้องการความสงบ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ก
๓๕. พระผู้มีพระภาค ตรัสไว้ในอุโบสถสูตรว่า สิ่งที่จะชำระจิตใจที่เศร้าหมองด้วยอำนาจ
กิเลสให้บริสุทธิ์ได้นั้น คืออะไร ?
ก. ถวายสังฆทาน ข. รดน้ำมนต์
ค. ไหว้พระ ๙ วัด ง. นึกถึงศีล
คำตอบ : ง
๓๖. ข้อใด ไม่ใช่การรักษาอุโบสถศีลตามพระอรหันต์ ?
ก. ละปาณาติบาต ข. ละอทินนาทาน
ค. ละอพรหมจรรย์ ง. ละทุกข์
คำตอบ : ง
๓๗. พระอรหันต์ได้ชื่อว่ามีถ้อยคำมั่นคง ไม่ลวงโลก เพราะศีลข้อใด ?
ก. เว้นอาหารในเวลาวิกาล
ข. ประพฤติพรหมจรรย์
ค. เว้นจากการพูดเท็จ
ง. เว้นจากการดื่มน้ำเมา
คำตอบ : ค
๓๘. ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีล มีอาการเหมือนคนรับจ้างเลี้ยงโค ตรงกับข้อใด ?
ก. พูดเรื่องกิน ข. พูดเรื่องลูกหลาน
ค. มีแต่ความอยากได้ ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๓๙. ผู้สมาทานปฏิชาครอุโบสถ ต้องรักษาศีลอะไร ?
ก. ศีล ๕ ข. ศีล ๘
ค. ศีล ๑๐ ง. ศีล ๓๑๑
คำตอบ : ข
๔๐. คำว่า “ สรณคมน์ ” คืออะไร ?
ก. รัตนะ ๓ ข. โอวาท ๓
ค. อริยสัจ ๔ ง. ศีล ๘
คำตอบ : ก
๔๑. คำว่า “ สีเลน สุคตึ ยนฺติ ” เป็นคำอะไร ?
ก. คำอาราธนาศีล ข. คำลาศีล
ค. คำสมาทานศีล ง. คำบอกอานิสงส์ศีล
คำตอบ : ง
๔๒. เมื่อพระสงฆ์ว่า “ ติสรณคมนํ นิฏฺฐิตํ ” ผู้สมาทานอุโบสถศีลพึงรับพร้อมกัน
ว่าอย่างไร ?
ก. อาม ภนฺเต ข. สาธุ ภนฺเต
ค. มยํ ภนฺเต ง. อิมานิ มยํ ภนฺเต
คำตอบ : ก
๔๓. ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีล พึงรับประทานอาหารให้เสร็จเวลาใด ?
ก. ก่อนเพล ข. ก่อนเที่ยง
ค. เที่ยงครึ่ง ง. ก่อนบ่ายโมง
คำตอบ : ข
๔๔. คำพูดเช่นใด ห้ามผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีลพูด ?
ก. คำหยาบ ข. คำเพ้อเจ้อ
ค. คำส่อเสียด ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
๔๕. เพราะเหตุใด ผู้สมาทานรักษาอุโบสถศีล จึงต้องงดดื่มสุรา ?
ก. เพราะเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
ข. เพราะเป็นข้าศึกแห่งพรหมจรรย์
ค. เพราะเป็นที่ตั้งแห่งความกังวล
ง. เพราะเป็นเหตุให้คนอื่นไม่เชื่อถือ
คำตอบ : ก
๔๖. เพราะเหตุใด ผู้รักษาอุโบสถศีล จึงต้องงดการประดับร่างกาย ?
ก. เพราะเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
ข. เพราะเป็นที่ตั้งแห่งความกังวล
ค. เพราะเป็นข้าศึกแก่กุศล
ง. เพราะเป็นข้าศึกแก่อกุศล
คำตอบ : ค
๔๗. คำว่า “ วางทอนไม้ ” ในอุโบสถสูตร มีความหมายว่าอย่างไร ?
ก. งดฆ่าสัตว์ ข. งดลักทรัพย์
ค. งดจี้ปล้น ง. งดคบคนพาล
คำตอบ : ก
๔๘. ผู้รักษาอุโบสถศีลไม่รู้ว่าน้ำมีตัวสัตว์ ดื่มเข้าไป ศีลขาดหรือไม่ ?
ก. ขาด เพราะสัตว์มีชีวิต
ข. ขาด เพราะสัตว์ตาย
ค. ไม่ขาด เพราะไม่รู้ว่ามีตัวสัตว์
ง. ไม่ขาด เพราะต้องรักษาชีวิต
คำตอบ : ค
๔๙. เมื่อรักษาอุโบสถศีลครบวันหนึ่งคืนหนึ่งแล้ว พึงปฏิบัติอย่างไร ?
ก. กล่าวคำลาพระรัตนตรัย
ข. กล่าวคำลาศีล
ค. กล่าวคำลาสิกขา
ง. การสมาทานสิ้นสุดเอง
คำตอบ : ง
๕๐. การรักษาอุโบสถศีล มีประโยชน์อย่างไร
ก. ละความชั่วได้ ข. เป็นที่ตั้งแห่งสมาธิ
ค. เป็นที่ตั้งแห่งปัญญา ง. ถูกทุกข้อ
คำตอบ : ง
ผู้ออกข้อสอบ
: ๑. พระศรีรัตนโมลี วัดพระปฐมเจดีย์
๒. พระปิฎกโกศล วัดพระพิเรนทร์
๓. พระมหาสมเจตต์ อธิจิตฺโต ป.ธ.๙
วัดสุทัศนเทพวราราม
ตรวจ/ปรับปรุง : สนามหลวงแผนกธรรม
คุรุธรรม
ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ ธรรมศึกษาชั้นเอกปี พ.ศ.๒๕๕๒
1.ประวัติของพระพุทธเจ้าและพระสาวก คือข้อใด ?
ก.อนุพุทธประวัติ ข.พุทธประวัติ
ค.พุทธานุพุทธประวัติ ง.ปัจเจกพุทธประวัติ
ตอบ ค
2.ชาวชมพูทวีปมีทิฏฐิมานะกล้า ชอบรังเกียจกันด้วยเหตุใด ?
ก.เกียรติยศ ข.ความมั่งคั่งสมบัติ
ค.ชาติและโคตร ง.ฐานะความเป็นอยู่
ตอบ ค
3.ส่วนกลางของประเทศเป็นที่อยู่ของชนชาติอริยกะ เรียกว่าอะไร ?
ก.ปัจจันตประเทศ ข.มัชฌิมประเทศ
ค.ปฐมประเทศ ง.ปัจฉิมประเทศ
ตอบ ข
4.ชมพูทวีป แบ่งออกเป็นกี่อาณาจักรใหญ่ ?
ก.10 อาณาจักร ข.15 อาณาจักร
ค.16 อาณาจักร ง.26 อาณาจักร
ตอบ ค
5.บุตรที่เกิดจากมารดาบิดาต่างวรรณะกัน เรียกว่าอะไร ?
ก.พราหมณ์ ข.แพศย์
ค.ศูทร ง.จัณฑาล
ตอบ ง
6.ใครประกอบด้วยลักษณะแห่งเบญจกัลยาณี ?
ก.พระนางสิริมหามายา ข.พระนางปชาบดีโคตมี
ค.พระนางกัญจนา ง.พระนางอมิตา
ตอบ ก
7.สุเมธดาบส ได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์ใด
ก.พระตัณหังกร ข.พระสรณังกร
ค.พระทีปังกร ง.พระกัสสปะ
ตอบ ค
8.พระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีครบถ้วน ขณะเสวยพระชาติเป็นใคร ?
ก.พระมหาชนก ข.พระเตมีย์
ค.พระมโสถ ง.พระเวสสันดร
ตอบ ง
9.การตรวจดูอันยิ่งใหญ่ก่อนเสด็ดอุบัติเป็นมนุษย์ของพระมหาสัตว์ตรงกับข้อใด ?
ก.ปัญจโกลาหล ข.เทโวโรหณะ
ค.เบญจมหาบริจาค ง.มหาวิโลกนะ
ตอบ ง
10.ข้อใด ไม่จัดเข้าในมหาบุรุษลักษณะ 32 ประการ ?
ก.ฝ่าเท้ามีลายกงจักร ข.มีผิวดั่งทองคำ
ค.มีพระทนต์ 32 ซี่ ง.มีลำคอกลมเสมอ
ตอบ ค
11.คำอุทานตอนประสูติว่า เราเป็นผู้เลิศในโลก เรียกว่าอะไร ?
ก.สัจจวาจา ข.เจตนาวาจา
ค.อาสภิวาจา ง.สุภาสิตวาจา
ตอบ ค
12.ข้อใด ไม่นับเข้าในสหชาตของพระพุทธเจ้า ?
ก.ม้ากัณฐกะ ข.ต้นศรีมหาโพธิ
ค.ขุมทรัพย์ทั้ง 4 ง.พระนันทกุมาร
ตอบ ง
13.พระนามใด มีความหมายว่า พระผู้มีฉัพพรรณรังสีแผ่ซ่านออกจากพระวรกาย ?
ก.พระสิทธัตถะ ข.พระอังคีรส
ค.พระโคดม ง.พระชินสีห์
ตอบ ข
14.ดาบสที่เข้าเยี่ยมพระมหาบุรุษคนแรกหลังประสูติ คือใคร ?
ก.กาฬเทวิลดาบส ข.อาฬารดาบส
ค.อุทกดาบส ง.กบิลดาบส
ตอบ ก
15.เมื่อดาบสกราบพระโอรส เหล่าราชตระกูลเห็นแล้วทำอย่างไร ?
ก.ให้โอรสเป็นบริวาร ข.ให้ออกบวชตาม
ค.ให้โอรสเป็นข้าทาส ง.เสื่อมศรัทธาดาบส
ตอบ ก
16.พระมหาบุรุษได้ปฐมฌาน ในขณะพระชนมายุเท่าไร
ก. 5 พรรษา ข. 6 พรรษา
ค. 7 พรรษา ง. 8 พรรษา
ตอบ ค
17.คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ รวมเรียกว่าอะไร ?
ก.ธรรมทูต ข.เทวทูต
ค.สมณทูต ง.ยมทูต
ตอบ ข
18.ในวันที่พระมหาบุรุษเสด็จออกผนวช มีใครคอยห้ามปรามไว้ ?
ก.พระราชบิดา ข.พระนางพิมพา
ค.นายฉันนะ ง.พญาวสวัสดีมาร
ตอบ ง
19.ใครเป็นพยานว่า การบำเพ็ญทุกรกิริยาไม่ใช่หนทางตรัสรู้ ?
ก.ปัญจวัคคีย์ ข.อาฬารดาบส
ค.อุทกดาบส ง.ตปุสสะ ภัลลิกะ
ตอบ ก
20.ญาณเป็นเหตุให้ระลึกชาติในหนหลังได้ ตรงกับข้อใด
ก.จุตูปปาตญาณ ข.นิพพิทาญาณ
ค.ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ง.อาสวักขยญาณ
ตอบ ค
21.พระมหาบุรุษพรรพชาแล้ว ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่กี่ปี จึงตรัสรู้ ?
ก.4 ปี ข.5 ปี
ค.6 ปี ง.7 ปี
ตอบ ค
22.พระนามว่า สัมมาสัมพุทโธ เป็นพระนามที่ได้จากอะไร ?
ก.เหล่าบริษัทถวาย ข.เหล่าสาวกถวาย
ค.เหล่าเทพถวาย ง.พระคุณส่วนพระองค์
ตอบ ง
23.พราหมณ์ผู้มักตวาดผู้อื่นว่า หึ หึ ได้ทูลถามปัญหาพระพุทธเจ้าในขณะเสวย
วิมุตติสุขที่ต้นไม้ใด ?
ก.ต้นมหาโพธิ ข.ต้นอชปาลนิโครธ
ค.ต้นราชายตนะ ง.ต้นมุจลินท์
ตอบ ข
24.ตปุสสะและภัลลิกะ ได้ถวายข้าวสัตตุก้อนสัตตุผงที่ต้นไม้ใด ?
ก.ต้นมหาโพธิ ข.ต้นอชปาลนิโครธ
ค.ต้นมุจลินท์ ง.ต้นราชายตนะ
ตอบ ง
25.ข้อใด จัดเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ในอริยสัจ 4 ?
ก.ราคะ ข.โทสะ
ค.โมหะ ง.ตัณหา
ตอบ ง
26.คำว่า ดวงตาเห็นธรรม ตรงกับข้อใด ?
ก.พุทธจักษุ ข.ธัมมจักษุ
ค.ทิพยจักษุ ง.มังสจักษุ
ตอบ ข
27.ยสกุลบุตร มีสหายที่ตามออกบวชด้วยกันกี่คน ?
ก.45 คน ข.50 คน
ค.54 คน ง.55 คน
ตอบ ค
28.คำว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน เพราะไฟคือราคะ โทสะ โมหะ
เป็นใจความแห่งพระสุตรใด ?
ก.ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ข.อนัตตลักขณะสูตร
ค.เวทนาปริคคหสูตร ง.อาทิตตปริยายสูตร
ตอบ ง
29.บริวารมากเพราะน้ำใจ เป็นคุณสมบัติของพระสาวกรูปใด ?
ก.พระอัญญาโกณฑัญญะ ข.พระเจ้าพิมพิสาร
ค.พระอุรุเวลากัสสปะ ง.พระสารีบุตร
ตอบ ค
30.พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใด ตั้งความปรารถนาไว้ 5 ประการแล้วประสบความสำเร็จ ?
ก.พระเจ้าสุทโธทนะ
ข.พระเจ้าพิมพิสาร
ค.พระเจ้าอชาตศัตรู
ง.พระเจ้าปเสนทิโกศล
ตอบ ข
31.ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระศาสดาแสดงเหตุและดังแห่งธรรมนั้น
ใครกล่าวกับใคร ?
ก.อุปติสสะกับสัญชัย ข.พระอัสสชิกับโกลิตะ
ค.โกลิตะกับสัญชัย ง.พระอัสสชิกับอุปติสสะ
ตอบ ง
32.เหตุใด พระสารีบุตรจึงกลับไปนิพพานที่บ้านเกิดของตนเอง ?
ก.ไปเยี่ยมบ้าน ข.ไปเยี่ยมมารดา
ค.ไปเทศน์โปรดมารดา ง.ไปรักษาตัว
ตอบ ค
33.เพื่อนดีมีหนึ่งถึงจะน้อย ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา ใครกับใคร ?
ก.ตปุสสะ ภัลลิกะ ข.ภัททิยะ อนุรุทธะ
ค.อัสสชิ อุปติสสะ ง.อุปติสสะ โกลิตะ
ตอบ ง
34.พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญพระสาวกรูปใดว่า กตัญญูกตเวที ?
ก.พระสารีบุตร ข.พระโมคคลลานะ
ค.พระอุรุเวลากัสสปะ ง.พระมหากัสสปะ
ตอบ ก
35.พระดำรัสว่า มีธรรมเป็นเครื่องอยู่เสมอด้วยพระองค์ หมายถึงพระสาวกรูปใด ?
ก.พระสารีบุตร ข.พระอานนท์
ค.พระมหากัจจายนะ ง.พระมหากัสสปะ
ตอบ ง
36.ข้อใด ไม่จัดเข้าในสหธรรมิกของบรรพชิต ?
ก.ภิกษุ ข.ภิกษุณี
ค.สิกขมานา ง.อุบาสก
ตอบ ง
37.พระพุทธเจ้าทรงประทานครุธรรม 8ประการ แก่ใครเป็นครั้งแรก ?
ก.ปชาบดีโคตรมีเถรี ข.เขมาเถรี
ค.อุบลวัณณาเถรี ง.ปฎาจาราเถรี
ตอบ ก
38.ในพรรษาที่ 45 พระพุทธเจ้าทรงอยู่จำ ณ สถานที่ใด ?
ก.บ้านภัณฑุคาม ข.บ้านอัมพคาม
ค.บ้านชัมพุคาม ง.บ้านเวฬุวคาม
ตอบ ง
39.มหาปเทส 4 พระพุทธเจ้าทรงแสดง ณ สถานที่ใด ?
ก.อานันทเจดีย์ ข.ปาวาลเจดีย์
ค.อจลเจดีย์ ง.ปาสาณเจดีย์
ตอบ ก
40.พระกายของพระตถาคต ย่อมผ่องใสยิ่งนักในเวลาใด
ก.ตอนประสุติ ข.ตอนตรัสรู้
ค.ตอนปรินิพพาน ง.ตอนตรัสรู้ ปรินิพพาน
ตอบ ง
41.นาคาวโลก คือการเหลียวกลับมามองเมืองใด เป็นครั้งสุดท้าย ?
ก.วัชชี ข.สาวัตถี
ค.เวสาลี ง.กุสินารา
ตอบ ค
42.พระสาวกรูปใด ได้รับการบวชเป็นปัจฉิมสาวก ?
ก.พระอานนท์ ข.พระอนุรุทธะ
ค.พระสุภัททะ ง.พระมหากัสสปะ
ตอบ ค
43.พระศาสดาตรัสแก่พระสาวกใดว่า ธรรมและวินัยที่เราแสดงแล้ว
จังเป็นศาสดาแห่งท่านทั้งหลาย โดยการล่วงไปแห่งเรา ?
ก.พระอนุรุทธะ ข.พระมหากัสสปะ
ค.พระอุบาลี ง.พระอานนท์
ตอบ ง
44.พระสาวกรูปใด วิสัชนาพระธรรมในคราวสังคยานาครั้งที่ 1 ?
ก.พระมหากัสสปะ ข.พระอานนทร์
ค.พระอนุรุทธะ ง.พระอุบาลี
ตอบ ข
45.ข้อใด ไม่นับเข้าในเจดีย์ 4 ประเภท ?
ก.สถูปเจดีย์ ข.บริโภคเจดีย์
ค.ธรรมเจดีย์ ง.อุทเทสิกเจดีย์
ตอบ ก
46.ข้อใด ไม่จัดเข้าในถูปารหบุคคล ?
ก.พระปัจเจกพุทธเจ้า ข.พระอรหันต์
ค.พระเจ้าจักรพรรดิ ง.พระอนาคามี
ตอบ ง
47.เมืองที่ส่งทูตมาขอพระบรมสารีริกธาตุครั้งแรก มีจำนวนเท่าไร ?
ก.6 เมือง ข.7 เมือง
ค.8 เมือง ง.9 เมือง
ตอบ ข
48.พระราชาพระองค์ใด ถวายการอุปถัมภืในคราวสังคายนาครั้งที่ 3 ?
ก.พระเจ้ากาลาโศกราช
ข.พระเจ้าอโศกมหาราช
ค.พระเจ้าอชาตศัตรู
ง.พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ
ตอบ ข
49.อันตรธานใด เป็นชั้นแรกแห่งความเสื่อมในพระพุทธศาสนา ?
ก.ปริยัติอันตรธาน ข.ปฏิบัติอันตรธาน
ค.ปฏิเวธอันตรธาน ง.ลิงคอันตรธาน
ตอบ ก
50.ความเสื่อมสูญไปแห่งสมณเพศ หมายถึงอันตรธานใด ?
ก.ปริยัติอันตรธาน ข.ปฏิบัติอันตรธาน
ค.ปฏิเวธอันตรธาน ง.ลิงคอันตรธาน
ตอบ ง
แม่กองธรรมสนามหลวง เฉลย
(ขอปัญญาจงเกิดแก่ท่าน)
คุรุธรรม
ก.อนุพุทธประวัติ ข.พุทธประวัติ
ค.พุทธานุพุทธประวัติ ง.ปัจเจกพุทธประวัติ
ตอบ ค
2.ชาวชมพูทวีปมีทิฏฐิมานะกล้า ชอบรังเกียจกันด้วยเหตุใด ?
ก.เกียรติยศ ข.ความมั่งคั่งสมบัติ
ค.ชาติและโคตร ง.ฐานะความเป็นอยู่
ตอบ ค
3.ส่วนกลางของประเทศเป็นที่อยู่ของชนชาติอริยกะ เรียกว่าอะไร ?
ก.ปัจจันตประเทศ ข.มัชฌิมประเทศ
ค.ปฐมประเทศ ง.ปัจฉิมประเทศ
ตอบ ข
4.ชมพูทวีป แบ่งออกเป็นกี่อาณาจักรใหญ่ ?
ก.10 อาณาจักร ข.15 อาณาจักร
ค.16 อาณาจักร ง.26 อาณาจักร
ตอบ ค
5.บุตรที่เกิดจากมารดาบิดาต่างวรรณะกัน เรียกว่าอะไร ?
ก.พราหมณ์ ข.แพศย์
ค.ศูทร ง.จัณฑาล
ตอบ ง
6.ใครประกอบด้วยลักษณะแห่งเบญจกัลยาณี ?
ก.พระนางสิริมหามายา ข.พระนางปชาบดีโคตมี
ค.พระนางกัญจนา ง.พระนางอมิตา
ตอบ ก
7.สุเมธดาบส ได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์ใด
ก.พระตัณหังกร ข.พระสรณังกร
ค.พระทีปังกร ง.พระกัสสปะ
ตอบ ค
8.พระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีครบถ้วน ขณะเสวยพระชาติเป็นใคร ?
ก.พระมหาชนก ข.พระเตมีย์
ค.พระมโสถ ง.พระเวสสันดร
ตอบ ง
9.การตรวจดูอันยิ่งใหญ่ก่อนเสด็ดอุบัติเป็นมนุษย์ของพระมหาสัตว์ตรงกับข้อใด ?
ก.ปัญจโกลาหล ข.เทโวโรหณะ
ค.เบญจมหาบริจาค ง.มหาวิโลกนะ
ตอบ ง
10.ข้อใด ไม่จัดเข้าในมหาบุรุษลักษณะ 32 ประการ ?
ก.ฝ่าเท้ามีลายกงจักร ข.มีผิวดั่งทองคำ
ค.มีพระทนต์ 32 ซี่ ง.มีลำคอกลมเสมอ
ตอบ ค
11.คำอุทานตอนประสูติว่า เราเป็นผู้เลิศในโลก เรียกว่าอะไร ?
ก.สัจจวาจา ข.เจตนาวาจา
ค.อาสภิวาจา ง.สุภาสิตวาจา
ตอบ ค
12.ข้อใด ไม่นับเข้าในสหชาตของพระพุทธเจ้า ?
ก.ม้ากัณฐกะ ข.ต้นศรีมหาโพธิ
ค.ขุมทรัพย์ทั้ง 4 ง.พระนันทกุมาร
ตอบ ง
13.พระนามใด มีความหมายว่า พระผู้มีฉัพพรรณรังสีแผ่ซ่านออกจากพระวรกาย ?
ก.พระสิทธัตถะ ข.พระอังคีรส
ค.พระโคดม ง.พระชินสีห์
ตอบ ข
14.ดาบสที่เข้าเยี่ยมพระมหาบุรุษคนแรกหลังประสูติ คือใคร ?
ก.กาฬเทวิลดาบส ข.อาฬารดาบส
ค.อุทกดาบส ง.กบิลดาบส
ตอบ ก
15.เมื่อดาบสกราบพระโอรส เหล่าราชตระกูลเห็นแล้วทำอย่างไร ?
ก.ให้โอรสเป็นบริวาร ข.ให้ออกบวชตาม
ค.ให้โอรสเป็นข้าทาส ง.เสื่อมศรัทธาดาบส
ตอบ ก
16.พระมหาบุรุษได้ปฐมฌาน ในขณะพระชนมายุเท่าไร
ก. 5 พรรษา ข. 6 พรรษา
ค. 7 พรรษา ง. 8 พรรษา
ตอบ ค
17.คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ รวมเรียกว่าอะไร ?
ก.ธรรมทูต ข.เทวทูต
ค.สมณทูต ง.ยมทูต
ตอบ ข
18.ในวันที่พระมหาบุรุษเสด็จออกผนวช มีใครคอยห้ามปรามไว้ ?
ก.พระราชบิดา ข.พระนางพิมพา
ค.นายฉันนะ ง.พญาวสวัสดีมาร
ตอบ ง
19.ใครเป็นพยานว่า การบำเพ็ญทุกรกิริยาไม่ใช่หนทางตรัสรู้ ?
ก.ปัญจวัคคีย์ ข.อาฬารดาบส
ค.อุทกดาบส ง.ตปุสสะ ภัลลิกะ
ตอบ ก
20.ญาณเป็นเหตุให้ระลึกชาติในหนหลังได้ ตรงกับข้อใด
ก.จุตูปปาตญาณ ข.นิพพิทาญาณ
ค.ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ง.อาสวักขยญาณ
ตอบ ค
21.พระมหาบุรุษพรรพชาแล้ว ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่กี่ปี จึงตรัสรู้ ?
ก.4 ปี ข.5 ปี
ค.6 ปี ง.7 ปี
ตอบ ค
22.พระนามว่า สัมมาสัมพุทโธ เป็นพระนามที่ได้จากอะไร ?
ก.เหล่าบริษัทถวาย ข.เหล่าสาวกถวาย
ค.เหล่าเทพถวาย ง.พระคุณส่วนพระองค์
ตอบ ง
23.พราหมณ์ผู้มักตวาดผู้อื่นว่า หึ หึ ได้ทูลถามปัญหาพระพุทธเจ้าในขณะเสวย
วิมุตติสุขที่ต้นไม้ใด ?
ก.ต้นมหาโพธิ ข.ต้นอชปาลนิโครธ
ค.ต้นราชายตนะ ง.ต้นมุจลินท์
ตอบ ข
24.ตปุสสะและภัลลิกะ ได้ถวายข้าวสัตตุก้อนสัตตุผงที่ต้นไม้ใด ?
ก.ต้นมหาโพธิ ข.ต้นอชปาลนิโครธ
ค.ต้นมุจลินท์ ง.ต้นราชายตนะ
ตอบ ง
25.ข้อใด จัดเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ในอริยสัจ 4 ?
ก.ราคะ ข.โทสะ
ค.โมหะ ง.ตัณหา
ตอบ ง
26.คำว่า ดวงตาเห็นธรรม ตรงกับข้อใด ?
ก.พุทธจักษุ ข.ธัมมจักษุ
ค.ทิพยจักษุ ง.มังสจักษุ
ตอบ ข
27.ยสกุลบุตร มีสหายที่ตามออกบวชด้วยกันกี่คน ?
ก.45 คน ข.50 คน
ค.54 คน ง.55 คน
ตอบ ค
28.คำว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน เพราะไฟคือราคะ โทสะ โมหะ
เป็นใจความแห่งพระสุตรใด ?
ก.ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ข.อนัตตลักขณะสูตร
ค.เวทนาปริคคหสูตร ง.อาทิตตปริยายสูตร
ตอบ ง
29.บริวารมากเพราะน้ำใจ เป็นคุณสมบัติของพระสาวกรูปใด ?
ก.พระอัญญาโกณฑัญญะ ข.พระเจ้าพิมพิสาร
ค.พระอุรุเวลากัสสปะ ง.พระสารีบุตร
ตอบ ค
30.พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใด ตั้งความปรารถนาไว้ 5 ประการแล้วประสบความสำเร็จ ?
ก.พระเจ้าสุทโธทนะ
ข.พระเจ้าพิมพิสาร
ค.พระเจ้าอชาตศัตรู
ง.พระเจ้าปเสนทิโกศล
ตอบ ข
31.ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระศาสดาแสดงเหตุและดังแห่งธรรมนั้น
ใครกล่าวกับใคร ?
ก.อุปติสสะกับสัญชัย ข.พระอัสสชิกับโกลิตะ
ค.โกลิตะกับสัญชัย ง.พระอัสสชิกับอุปติสสะ
ตอบ ง
32.เหตุใด พระสารีบุตรจึงกลับไปนิพพานที่บ้านเกิดของตนเอง ?
ก.ไปเยี่ยมบ้าน ข.ไปเยี่ยมมารดา
ค.ไปเทศน์โปรดมารดา ง.ไปรักษาตัว
ตอบ ค
33.เพื่อนดีมีหนึ่งถึงจะน้อย ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา ใครกับใคร ?
ก.ตปุสสะ ภัลลิกะ ข.ภัททิยะ อนุรุทธะ
ค.อัสสชิ อุปติสสะ ง.อุปติสสะ โกลิตะ
ตอบ ง
34.พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญพระสาวกรูปใดว่า กตัญญูกตเวที ?
ก.พระสารีบุตร ข.พระโมคคลลานะ
ค.พระอุรุเวลากัสสปะ ง.พระมหากัสสปะ
ตอบ ก
35.พระดำรัสว่า มีธรรมเป็นเครื่องอยู่เสมอด้วยพระองค์ หมายถึงพระสาวกรูปใด ?
ก.พระสารีบุตร ข.พระอานนท์
ค.พระมหากัจจายนะ ง.พระมหากัสสปะ
ตอบ ง
36.ข้อใด ไม่จัดเข้าในสหธรรมิกของบรรพชิต ?
ก.ภิกษุ ข.ภิกษุณี
ค.สิกขมานา ง.อุบาสก
ตอบ ง
37.พระพุทธเจ้าทรงประทานครุธรรม 8ประการ แก่ใครเป็นครั้งแรก ?
ก.ปชาบดีโคตรมีเถรี ข.เขมาเถรี
ค.อุบลวัณณาเถรี ง.ปฎาจาราเถรี
ตอบ ก
38.ในพรรษาที่ 45 พระพุทธเจ้าทรงอยู่จำ ณ สถานที่ใด ?
ก.บ้านภัณฑุคาม ข.บ้านอัมพคาม
ค.บ้านชัมพุคาม ง.บ้านเวฬุวคาม
ตอบ ง
39.มหาปเทส 4 พระพุทธเจ้าทรงแสดง ณ สถานที่ใด ?
ก.อานันทเจดีย์ ข.ปาวาลเจดีย์
ค.อจลเจดีย์ ง.ปาสาณเจดีย์
ตอบ ก
40.พระกายของพระตถาคต ย่อมผ่องใสยิ่งนักในเวลาใด
ก.ตอนประสุติ ข.ตอนตรัสรู้
ค.ตอนปรินิพพาน ง.ตอนตรัสรู้ ปรินิพพาน
ตอบ ง
41.นาคาวโลก คือการเหลียวกลับมามองเมืองใด เป็นครั้งสุดท้าย ?
ก.วัชชี ข.สาวัตถี
ค.เวสาลี ง.กุสินารา
ตอบ ค
42.พระสาวกรูปใด ได้รับการบวชเป็นปัจฉิมสาวก ?
ก.พระอานนท์ ข.พระอนุรุทธะ
ค.พระสุภัททะ ง.พระมหากัสสปะ
ตอบ ค
43.พระศาสดาตรัสแก่พระสาวกใดว่า ธรรมและวินัยที่เราแสดงแล้ว
จังเป็นศาสดาแห่งท่านทั้งหลาย โดยการล่วงไปแห่งเรา ?
ก.พระอนุรุทธะ ข.พระมหากัสสปะ
ค.พระอุบาลี ง.พระอานนท์
ตอบ ง
44.พระสาวกรูปใด วิสัชนาพระธรรมในคราวสังคยานาครั้งที่ 1 ?
ก.พระมหากัสสปะ ข.พระอานนทร์
ค.พระอนุรุทธะ ง.พระอุบาลี
ตอบ ข
45.ข้อใด ไม่นับเข้าในเจดีย์ 4 ประเภท ?
ก.สถูปเจดีย์ ข.บริโภคเจดีย์
ค.ธรรมเจดีย์ ง.อุทเทสิกเจดีย์
ตอบ ก
46.ข้อใด ไม่จัดเข้าในถูปารหบุคคล ?
ก.พระปัจเจกพุทธเจ้า ข.พระอรหันต์
ค.พระเจ้าจักรพรรดิ ง.พระอนาคามี
ตอบ ง
47.เมืองที่ส่งทูตมาขอพระบรมสารีริกธาตุครั้งแรก มีจำนวนเท่าไร ?
ก.6 เมือง ข.7 เมือง
ค.8 เมือง ง.9 เมือง
ตอบ ข
48.พระราชาพระองค์ใด ถวายการอุปถัมภืในคราวสังคายนาครั้งที่ 3 ?
ก.พระเจ้ากาลาโศกราช
ข.พระเจ้าอโศกมหาราช
ค.พระเจ้าอชาตศัตรู
ง.พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ
ตอบ ข
49.อันตรธานใด เป็นชั้นแรกแห่งความเสื่อมในพระพุทธศาสนา ?
ก.ปริยัติอันตรธาน ข.ปฏิบัติอันตรธาน
ค.ปฏิเวธอันตรธาน ง.ลิงคอันตรธาน
ตอบ ก
50.ความเสื่อมสูญไปแห่งสมณเพศ หมายถึงอันตรธานใด ?
ก.ปริยัติอันตรธาน ข.ปฏิบัติอันตรธาน
ค.ปฏิเวธอันตรธาน ง.ลิงคอันตรธาน
ตอบ ง
แม่กองธรรมสนามหลวง เฉลย
(ขอปัญญาจงเกิดแก่ท่าน)
คุรุธรรม
ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม ธรรมศึกษาชั้นเอกปี พ.ศ. ๒๕๕๒
1.ธรรมวิจารณ์ หมายถึงอะไร
ก.การวิพากษ์วิจารณ์ธรรม
ข.การเลือกเฟ้นพิจารณาธรรม
ค.การโต้วาทีในหัวข้อธรรม
ง.การวิเคราะห์ธรรม
ตอบ ข
2.คนผู้ไร้พิจารณ์หมายถึง....?
ก.ไร้การศึกษา ข.ไร้ความสามารถ
ค.ไร้ศีลธรรม ง.ไร้ปัญญาพิจารณา
ตอบ ง
3.ผู้ข้องอยู่ในโลกมีอาหารเช่นไร ?
ก.ติดในสิ่งล่อใจ
ข.สนใจข่าวสารโลก
ค.อยากมีอยากเป็น
ง.อยากเกิดในโลก
ตอบ ก
4.ผู้ข้องอยู่ในโลกจะได้รับผลอย่างไร ?
ก.ได้สุขฝ่ายเดียว ข.สนใจข่าวสารโลก
ค.ได้ทั้งสุขและทุกข์ ง.ไม่ได้ทั้งสุขและทุกข์
ตอบ ค
5."ผู้รู้หาข้องอยู่ไม่" หมายความว่าอย่างไร ?
ก.ผู้รู้ยังยินดีอยู่ ข.ผู้ข้องอยู่จึงจะได้รู้
ค.ผู้รู้เป็นผู้ฉลาด ง.ผู้รู้โลกตามความเป็นจริง
ตอบ ง
6.ท่านเปรียบสิ่งที่มีอุปการะว่าเหมือนเภสัช เพราะเหตุใด ?
ก.ให้คุณฝ่ายเดียว
ข.ให้โทษฝ่ายเดียว
ค.ให้ทั้งคุณและโทษ
ง.ให้ความสะดวกสบาย
ตอบ ค
7.คำว่า "นิพพิทา" มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก.ความหน่ายทำบาป
ข.ความหน่ายปฏิบัติธรรม
ค.ความหน่ายที่เกิดจากกิเลส
ง.ความหน่ายในกองสังขาร
ตอบ ง
8.คำว่า "มาร" มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก.ล้างผลาญชีวิต ข.ล้างผลาญความดี
ค.ล้างผลาญความเจริญ ง.ล้างผลาญสติปัญญา
ตอบ ข
9."ผู้ใดรักษาจิตผู้นั้นจักพ้นจากบ่วงแห่งมาร" คำว่า มาร หมายถึง ?
ก.พญามาร ข.กิเลสมาร
ค.ขันธมาร ง.อภิสังขารมาร
ตอบ ข
10.คำว่า "บ่วงแห่งมาร" คืออะไร ?
ก.วัตถุกาม ข.กิเลสกาม
ค.กามราคะ ง.กามตัณหา
ตอบ ก
11.กามคุณ ๕ จัดเป็นบ่วงแห่งมารเพราะเหตุใด ?
ก.ทำให้ใจเศร้าหมอง ข.ทำให้ใจเดือดร้อน
ค.ทำให้ใจเบิกบาน ง.ทำให้ใจหลงติด
ตอบ ง
12.จะพ้นจากบ่วงแห่งมารได้ต้องทำอย่างไร ?
ก.ให้ทาน ข.รักษาศีล
ค.ฟังธรรม ง.สำรวมจิต/เจริญปัญญา
ตอบ ง
13.ข้อใดไม่ใช่อาหารสำรวมจิต ?
ก.สำรวมอินทรีย์ ข.สำรวมในปาฏิโมกข์
ค.บำเพ็ญสมถะ ง.เจริญวิปัสสนา
ตอบ ก
14.สามัญญลักษณะ ได้แก่อะไร ?
ก.ลักษณะไม่เที่ยง ข.ลักษณะเป็นทุกข์
ค.ลักษณะไม่ใช่ตัวตน ง.ลักษณะเสมอกันแห่งสังขาร
ตอบ ง
15.สังขารในขันธ์ ๕ ตรงกับข้อใด ?
ก.สภาพอันธรรมดาแห่งขึ้น
ข.สภาพผู้ปรุงแต่งใจ
ค.สภาพอันธาตุ ๔ แต่งขึ้น
ง.สภาพที่เป็นเอง
ตอบ ข
16.ข้อใดไม่ใช่ อนิจจลักษณะ ?
ก.ว่างเปล่า ข.แปรไปในระหว่าง
ค.ไม่คงที่ ง.เกิดแล้วดับ
ตอบ ก
17.คำว่า "ปกิณณกทุกข์" ในทุกขตาได้แก่อะไร ?
ก.ชาติ ข.ชรา
ค.มรณะ ง.โสกะ
ตอบ ง
18.อะไรปิดบังไว้ จึงมองไม่เห็นอนิจจลักษณะ ?
ก.ความเข้าใจผิด ข.ความเคลื่อนไหว
ค.ความสืบต่อ ง.ความเป็นกลุ่มก้อน
ตอบ ค
19. สภาวทุกข์ ได้แก่ข้อใด ?
ก.ความเจ็บปวด ข.ความแก่ชรา
ค.ความร้อนใจ ง.ความหิวกระหาย
ตอบ ข
20.นิพัทธทุกข์ ทุกข์เนืองนิตย์ ได้แก่อะไร ?
ก.ชาติ ข.ชรา
ค.โสกะ ง.หิว
ตอบ ง
21.สันตาปทุกข์ เกิดจากอะไร ?
ก.เกิดเอง ข.ผลกรรม
ค.กิเลส ง.ทุกขเวทนา
ตอบ ค
22.การเห็นอนัตตาต้องมีอะไรกำกับ จึงจะไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ?
ก.ศรัทธา ข.นิพพิทาญาณ
ค.สมาธิ ง.โยนิโสมนสิการ
ตอบ ง
๒๓.คำสอนในข้อใด ที่ศาสนาอื่นไม่มี ?
ก.บาป บุญ ข.นรก สวรรค์
ค.อนัตตา ง.ตายแล้วเกิด
ตอบ ค
24.คำว่า "วิมุตติ" หมายถึงหลุดพ้นจากอะไร ?
ก.ตัณหา ข.อาสวกิเลส
ค.อวิชา ง.อุปาทาน
ตอบ ข
25.การอ้อนวอนบวงสรวง จัดเข้าในอาสวะข้อใด ?
ก.อวิชชาสวะ ข.กามาสวะ
ค.กิเลสาสวะ ง.ภวาสวะ
ตอบ ก
26.กิเลสที่หมักดองอยู่ในจิตตสันดาน เรียกว่าอะไร ?
ก.อนุสัย ข.อาสวะ
ค.โอฆะ ง.อวิชชา
ตอบ ข
27.ปฏิปทาของพระอรหันต์ผู้เจริญสมถะก่อนแล้วจึงเจริญวิปัสสนา เรียกว่าอะไร ?
ก.เจโตวิมุตติ ข.ปัญญาวิมุตติ
ค.วิกขัมภนวิมุตติ ง.สมุทเฉทวิมุตติ
ตอบ ก
28.ความบริสุทธิ์ภายใน ย่อมมีได้ด้วยอะไร ?
ก.ทาน ข.ศีล
ค.สมาธิ ง.ปัญญา
ตอบ ง
29.สัมมาวายามะ ในมรรค 8 สงเคราะห์เข้าในวิสุทธิข้อใด ?
ก.สีลวิสุทธิ ข.จิตตวิสุทธิ
ค.ทิฏฐิวิสุทธิ ง.ญาณทัสสนวิสุทธิ
ตอบ ข
30.การพิจารณาเห็นสังขารโดยไตรลักษณ์ จัดเป็นวิสุทธิอะไร ?
ก.สีลวิสุทธิ ข.จิตตวิสุทธิ
ค.ทิฏฐิวิสุทธิ ง.ญาณทัสสนวิสุทธิ
ตอบ ง
31.ผู้เว้นจากการเบียดเบียนทางกาย วาจา ใจ ชื่อว่ามีธรรมใดอยู่ภายใน ?
ก.วิมุตติ ข.วิสุทธิ
ค.วิราคะ ง.สันติ
ตอบ ง
32.ธรรมใดส่งเสริมให้สังคมเกิดสันติสุข ?
ก.สุจริต ข.บุญกิริยาวัตถุ
ค.อคติ ง.พรหมวิหาร
ตอบ ก
33.โลกามิส ได้แก่อะไร ?
ก.กามคุณ ข.กามตัณหา
ค.กามราคะ ง.กิเลสกาม
ตอบ ก
34.จุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา คืออะไร ?
ก.สวรรค์ ข.พรหมโลก
ค.นิพพาน ง.ดับสูญ
ตอบ ค
35.หาเครื่องเสียบแทงมิได้ เป็นความหมายของข้อใด ?
ก.วิราคะ ข.นิพพิทา
ค.วิมุตติ ง.นิพพาน
ตอบ ง
36.ภิกษุ เธอจงวิดเรือนี้ เรืออันเธอวิดแล้ว จักพลันถึง เรือในที่นี้หมายถึงอะไร ?
ก.วัตถุ ข.สัตว์
ค.อัตตภาพ ง.กิเลส
ตอบ ค
37.กัมมัฏฐาน คืออะไร ?
ก.อุบายชำระจิต ข.อุบายกำจัดกิเลส
ค.อุบายสงบใจ ง.อุบายเรืองปัญญา
ตอบ ก
38.ความมีจิตแน่วแน่ เรียกว่าอะไร ?
ก.สมาบัติ ข.สมาธิ
ค.ฌาน ง.กัมมัฏฐาน
ตอบ ข
39.จิตเป็นสมาธิ ต้องเป็นจิตสงบจากอะไร ?
ก.กิเลสตัณหา ข.อาสวะกิเลส
ค.อกุศลวิตก ง.นิวรณ์
ตอบ ง
40.คนราคะจริต ควรเจริญกัมมัฏฐานข้อใด ?
ก.เมตตา ข.กรุณา
ค.อสุภะ ง.อนุสสติ
ตอบ ค
41.ข้อใดต่อไปนี้กล่าวได้ถูกต้อง ?
ก.อสุภะแก้โทสจริต
ข.เมตตาแก้สัทธาจริต
ค.ศรัทธาแก้วิตกจริต
ง.อานาปานสติแก้โมหจริต
ตอบ ง
42.คนประเภทใด ปฏิบัติกัมมัฏฐานไม่ได้ผล ?
ก.คนหลงสติ ข.คนหนุ่มสาว
ค.เด็กนักเรียน ง.คนเจ็บป่วย
ตอบ ก
43.ทรงเป็นผู้ฝึกฝนได้อย่างยอดเยี่ยม ตรงกับพุทธคุณข้อใด ?
ก.สมฺมาสมฺพุทฺโธ
ข.วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน
ค.อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ
ง.สตฺถา เทวมนุสฺสานํ
ตอบ ค
44.พุทธคุณข้อใด จัดเป็นพระวิสุทธิคุณ ?
ก.อรหํ ข.สมฺมาสมฺพุทฺโธ
ค.ภควา ง.วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน
ตอบ ก
45.ตจปัญจกกัมมัฏฐาน มีวิธีพิจารณาโดยอาการอย่างไร?
ก.โดยเป็นของน่ารัก ข.โดยเป็นของโสโครก
ค.โดยเป็นของไม่เที่ยง ง.โดยความมิใช่ตัวตน
ตอบ ข
46.คนนอนฝันร้าย ควรเจริญกัมมัฏฐานอะไร ?
ก.เมตตา ข.กายคตาสติ
ค.กสิณ ง.จตุธาตุววัตถาน
ตอบ ก
47.คนละโมบในอาหาร แก้ด้วยกัมมัฏฐานชนิดใด ?
ก.อสุภกัมมัฏฐาน ข.มรณัสสติ
ค.อนุสสติกัมมัฏฐาน ง.อาหาเรปฏิกูลสัญญา
ตอบ ง
48.คำว่า วิปัสสนา มีความหมายว่าอย่างไร ?
ก.เห็นแจ้งรูปนาม ข.เห็นแจ้งนิพพาน
ค.เห็นแจ้งสังขาร ง.เห็นแจ้งอวิชชา
ตอบ ก
49.อะไรเป็นเหตุให้ผู้บำเพ็ญวิปัสสนาเข้าใจผิดว่าตนบรรลุมรรคผล ?
ก.วิปัลลาส ข.วิปัสสนูปกิเลส
ค.อุปกิเลส ง.นิวรณ์
ตอบ ข
50.ผลสูงสุดของวิปัสสนา คืออะไร ?
ก.เห็นสังขารเกิดดับ
ข.เห็นสังขารตามเป็นจริง
ค.เห็นสังขารเป็นทุกข์
ง.เห็นสังขารเป็นอนัตตา
ตอบ ข
เฉลยโดยแม่กองธรรมสนามหลวง
คุรุธรรม
ก.การวิพากษ์วิจารณ์ธรรม
ข.การเลือกเฟ้นพิจารณาธรรม
ค.การโต้วาทีในหัวข้อธรรม
ง.การวิเคราะห์ธรรม
ตอบ ข
2.คนผู้ไร้พิจารณ์หมายถึง....?
ก.ไร้การศึกษา ข.ไร้ความสามารถ
ค.ไร้ศีลธรรม ง.ไร้ปัญญาพิจารณา
ตอบ ง
3.ผู้ข้องอยู่ในโลกมีอาหารเช่นไร ?
ก.ติดในสิ่งล่อใจ
ข.สนใจข่าวสารโลก
ค.อยากมีอยากเป็น
ง.อยากเกิดในโลก
ตอบ ก
4.ผู้ข้องอยู่ในโลกจะได้รับผลอย่างไร ?
ก.ได้สุขฝ่ายเดียว ข.สนใจข่าวสารโลก
ค.ได้ทั้งสุขและทุกข์ ง.ไม่ได้ทั้งสุขและทุกข์
ตอบ ค
5."ผู้รู้หาข้องอยู่ไม่" หมายความว่าอย่างไร ?
ก.ผู้รู้ยังยินดีอยู่ ข.ผู้ข้องอยู่จึงจะได้รู้
ค.ผู้รู้เป็นผู้ฉลาด ง.ผู้รู้โลกตามความเป็นจริง
ตอบ ง
6.ท่านเปรียบสิ่งที่มีอุปการะว่าเหมือนเภสัช เพราะเหตุใด ?
ก.ให้คุณฝ่ายเดียว
ข.ให้โทษฝ่ายเดียว
ค.ให้ทั้งคุณและโทษ
ง.ให้ความสะดวกสบาย
ตอบ ค
7.คำว่า "นิพพิทา" มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก.ความหน่ายทำบาป
ข.ความหน่ายปฏิบัติธรรม
ค.ความหน่ายที่เกิดจากกิเลส
ง.ความหน่ายในกองสังขาร
ตอบ ง
8.คำว่า "มาร" มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก.ล้างผลาญชีวิต ข.ล้างผลาญความดี
ค.ล้างผลาญความเจริญ ง.ล้างผลาญสติปัญญา
ตอบ ข
9."ผู้ใดรักษาจิตผู้นั้นจักพ้นจากบ่วงแห่งมาร" คำว่า มาร หมายถึง ?
ก.พญามาร ข.กิเลสมาร
ค.ขันธมาร ง.อภิสังขารมาร
ตอบ ข
10.คำว่า "บ่วงแห่งมาร" คืออะไร ?
ก.วัตถุกาม ข.กิเลสกาม
ค.กามราคะ ง.กามตัณหา
ตอบ ก
11.กามคุณ ๕ จัดเป็นบ่วงแห่งมารเพราะเหตุใด ?
ก.ทำให้ใจเศร้าหมอง ข.ทำให้ใจเดือดร้อน
ค.ทำให้ใจเบิกบาน ง.ทำให้ใจหลงติด
ตอบ ง
12.จะพ้นจากบ่วงแห่งมารได้ต้องทำอย่างไร ?
ก.ให้ทาน ข.รักษาศีล
ค.ฟังธรรม ง.สำรวมจิต/เจริญปัญญา
ตอบ ง
13.ข้อใดไม่ใช่อาหารสำรวมจิต ?
ก.สำรวมอินทรีย์ ข.สำรวมในปาฏิโมกข์
ค.บำเพ็ญสมถะ ง.เจริญวิปัสสนา
ตอบ ก
14.สามัญญลักษณะ ได้แก่อะไร ?
ก.ลักษณะไม่เที่ยง ข.ลักษณะเป็นทุกข์
ค.ลักษณะไม่ใช่ตัวตน ง.ลักษณะเสมอกันแห่งสังขาร
ตอบ ง
15.สังขารในขันธ์ ๕ ตรงกับข้อใด ?
ก.สภาพอันธรรมดาแห่งขึ้น
ข.สภาพผู้ปรุงแต่งใจ
ค.สภาพอันธาตุ ๔ แต่งขึ้น
ง.สภาพที่เป็นเอง
ตอบ ข
16.ข้อใดไม่ใช่ อนิจจลักษณะ ?
ก.ว่างเปล่า ข.แปรไปในระหว่าง
ค.ไม่คงที่ ง.เกิดแล้วดับ
ตอบ ก
17.คำว่า "ปกิณณกทุกข์" ในทุกขตาได้แก่อะไร ?
ก.ชาติ ข.ชรา
ค.มรณะ ง.โสกะ
ตอบ ง
18.อะไรปิดบังไว้ จึงมองไม่เห็นอนิจจลักษณะ ?
ก.ความเข้าใจผิด ข.ความเคลื่อนไหว
ค.ความสืบต่อ ง.ความเป็นกลุ่มก้อน
ตอบ ค
19. สภาวทุกข์ ได้แก่ข้อใด ?
ก.ความเจ็บปวด ข.ความแก่ชรา
ค.ความร้อนใจ ง.ความหิวกระหาย
ตอบ ข
20.นิพัทธทุกข์ ทุกข์เนืองนิตย์ ได้แก่อะไร ?
ก.ชาติ ข.ชรา
ค.โสกะ ง.หิว
ตอบ ง
21.สันตาปทุกข์ เกิดจากอะไร ?
ก.เกิดเอง ข.ผลกรรม
ค.กิเลส ง.ทุกขเวทนา
ตอบ ค
22.การเห็นอนัตตาต้องมีอะไรกำกับ จึงจะไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ?
ก.ศรัทธา ข.นิพพิทาญาณ
ค.สมาธิ ง.โยนิโสมนสิการ
ตอบ ง
๒๓.คำสอนในข้อใด ที่ศาสนาอื่นไม่มี ?
ก.บาป บุญ ข.นรก สวรรค์
ค.อนัตตา ง.ตายแล้วเกิด
ตอบ ค
24.คำว่า "วิมุตติ" หมายถึงหลุดพ้นจากอะไร ?
ก.ตัณหา ข.อาสวกิเลส
ค.อวิชา ง.อุปาทาน
ตอบ ข
25.การอ้อนวอนบวงสรวง จัดเข้าในอาสวะข้อใด ?
ก.อวิชชาสวะ ข.กามาสวะ
ค.กิเลสาสวะ ง.ภวาสวะ
ตอบ ก
26.กิเลสที่หมักดองอยู่ในจิตตสันดาน เรียกว่าอะไร ?
ก.อนุสัย ข.อาสวะ
ค.โอฆะ ง.อวิชชา
ตอบ ข
27.ปฏิปทาของพระอรหันต์ผู้เจริญสมถะก่อนแล้วจึงเจริญวิปัสสนา เรียกว่าอะไร ?
ก.เจโตวิมุตติ ข.ปัญญาวิมุตติ
ค.วิกขัมภนวิมุตติ ง.สมุทเฉทวิมุตติ
ตอบ ก
28.ความบริสุทธิ์ภายใน ย่อมมีได้ด้วยอะไร ?
ก.ทาน ข.ศีล
ค.สมาธิ ง.ปัญญา
ตอบ ง
29.สัมมาวายามะ ในมรรค 8 สงเคราะห์เข้าในวิสุทธิข้อใด ?
ก.สีลวิสุทธิ ข.จิตตวิสุทธิ
ค.ทิฏฐิวิสุทธิ ง.ญาณทัสสนวิสุทธิ
ตอบ ข
30.การพิจารณาเห็นสังขารโดยไตรลักษณ์ จัดเป็นวิสุทธิอะไร ?
ก.สีลวิสุทธิ ข.จิตตวิสุทธิ
ค.ทิฏฐิวิสุทธิ ง.ญาณทัสสนวิสุทธิ
ตอบ ง
31.ผู้เว้นจากการเบียดเบียนทางกาย วาจา ใจ ชื่อว่ามีธรรมใดอยู่ภายใน ?
ก.วิมุตติ ข.วิสุทธิ
ค.วิราคะ ง.สันติ
ตอบ ง
32.ธรรมใดส่งเสริมให้สังคมเกิดสันติสุข ?
ก.สุจริต ข.บุญกิริยาวัตถุ
ค.อคติ ง.พรหมวิหาร
ตอบ ก
33.โลกามิส ได้แก่อะไร ?
ก.กามคุณ ข.กามตัณหา
ค.กามราคะ ง.กิเลสกาม
ตอบ ก
34.จุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา คืออะไร ?
ก.สวรรค์ ข.พรหมโลก
ค.นิพพาน ง.ดับสูญ
ตอบ ค
35.หาเครื่องเสียบแทงมิได้ เป็นความหมายของข้อใด ?
ก.วิราคะ ข.นิพพิทา
ค.วิมุตติ ง.นิพพาน
ตอบ ง
36.ภิกษุ เธอจงวิดเรือนี้ เรืออันเธอวิดแล้ว จักพลันถึง เรือในที่นี้หมายถึงอะไร ?
ก.วัตถุ ข.สัตว์
ค.อัตตภาพ ง.กิเลส
ตอบ ค
37.กัมมัฏฐาน คืออะไร ?
ก.อุบายชำระจิต ข.อุบายกำจัดกิเลส
ค.อุบายสงบใจ ง.อุบายเรืองปัญญา
ตอบ ก
38.ความมีจิตแน่วแน่ เรียกว่าอะไร ?
ก.สมาบัติ ข.สมาธิ
ค.ฌาน ง.กัมมัฏฐาน
ตอบ ข
39.จิตเป็นสมาธิ ต้องเป็นจิตสงบจากอะไร ?
ก.กิเลสตัณหา ข.อาสวะกิเลส
ค.อกุศลวิตก ง.นิวรณ์
ตอบ ง
40.คนราคะจริต ควรเจริญกัมมัฏฐานข้อใด ?
ก.เมตตา ข.กรุณา
ค.อสุภะ ง.อนุสสติ
ตอบ ค
41.ข้อใดต่อไปนี้กล่าวได้ถูกต้อง ?
ก.อสุภะแก้โทสจริต
ข.เมตตาแก้สัทธาจริต
ค.ศรัทธาแก้วิตกจริต
ง.อานาปานสติแก้โมหจริต
ตอบ ง
42.คนประเภทใด ปฏิบัติกัมมัฏฐานไม่ได้ผล ?
ก.คนหลงสติ ข.คนหนุ่มสาว
ค.เด็กนักเรียน ง.คนเจ็บป่วย
ตอบ ก
43.ทรงเป็นผู้ฝึกฝนได้อย่างยอดเยี่ยม ตรงกับพุทธคุณข้อใด ?
ก.สมฺมาสมฺพุทฺโธ
ข.วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน
ค.อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ
ง.สตฺถา เทวมนุสฺสานํ
ตอบ ค
44.พุทธคุณข้อใด จัดเป็นพระวิสุทธิคุณ ?
ก.อรหํ ข.สมฺมาสมฺพุทฺโธ
ค.ภควา ง.วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน
ตอบ ก
45.ตจปัญจกกัมมัฏฐาน มีวิธีพิจารณาโดยอาการอย่างไร?
ก.โดยเป็นของน่ารัก ข.โดยเป็นของโสโครก
ค.โดยเป็นของไม่เที่ยง ง.โดยความมิใช่ตัวตน
ตอบ ข
46.คนนอนฝันร้าย ควรเจริญกัมมัฏฐานอะไร ?
ก.เมตตา ข.กายคตาสติ
ค.กสิณ ง.จตุธาตุววัตถาน
ตอบ ก
47.คนละโมบในอาหาร แก้ด้วยกัมมัฏฐานชนิดใด ?
ก.อสุภกัมมัฏฐาน ข.มรณัสสติ
ค.อนุสสติกัมมัฏฐาน ง.อาหาเรปฏิกูลสัญญา
ตอบ ง
48.คำว่า วิปัสสนา มีความหมายว่าอย่างไร ?
ก.เห็นแจ้งรูปนาม ข.เห็นแจ้งนิพพาน
ค.เห็นแจ้งสังขาร ง.เห็นแจ้งอวิชชา
ตอบ ก
49.อะไรเป็นเหตุให้ผู้บำเพ็ญวิปัสสนาเข้าใจผิดว่าตนบรรลุมรรคผล ?
ก.วิปัลลาส ข.วิปัสสนูปกิเลส
ค.อุปกิเลส ง.นิวรณ์
ตอบ ข
50.ผลสูงสุดของวิปัสสนา คืออะไร ?
ก.เห็นสังขารเกิดดับ
ข.เห็นสังขารตามเป็นจริง
ค.เห็นสังขารเป็นทุกข์
ง.เห็นสังขารเป็นอนัตตา
ตอบ ข
เฉลยโดยแม่กองธรรมสนามหลวง
คุรุธรรม
ปัญหาและเฉลยวิชากรรมบถ(วินัย)ธรรมศึกษาชั้นเอก๒๕๕๒
1.ข้อใด เป็นความหมายของกรรมบถ ?
ก.กรรมนำสัตว์สู่สุคติทุคติ
ข.กรรมน้ำสัตว์สู่พรหมโลก
ค.กรรมนำสัตว์สู่มนุษยภูมิ
ง.กรรมนำสัตว์ไปอบายภูมิ
ตอบ ก
2.กุศลกรรมบถนำสัตว์ให้ไปเกิดในกำเนิดที่ดี ตรงกับข้อใด ?
ก.สัตว์นรก ข.เปรต
ค.อสุรกาย ง.มนุษย์
ตอบ ง
3.อกุศลกรรมบถนำสัตว์ให้ไปเกิดในกำเนิดที่เลว ตรงกับข้อใด ?
ก.พรหม ข.เทวดา
ค.เปรต ง.มนุษย์
ตอบ ค
4.กรรมบถ 10 ประการ จัดเป็นกรรม 3 อย่าง ยกเว้นข้อใด ?
ก.กายกรรม
ข.วจีกรรม
ค.มโนกรรม
ง.เวรกรรม
ตอบ ง
5.ในทางพระพุทธศาสนาว่า สุขทุกข์ของสัตว์ทั้งหลาย เกิดจากอะไร ?
ก.กิเลส ข.กรรม
ค.วิบาก ง.ชะตา
ตอบ ข
6.อโลภะ อโทสะ อโมหะ เป็นเหตุให้บุคคลกระทำกรรมใด ?
ก.บาปกรรม ข.อกุศลกรรม
ค.กุศลกรรม ง.อโหสิกรรม
ตอบ ค
7.การกระทำของสัตว์ทั้งหลายจะเป็นบุญหรือบาป ขึ้นอยู่กับอะไร ?
ก.เจตนา ข.สัญญา
ค.เวทนา ง.อารมณ์
ตอบ ก
8.การทำความดีความชั่วของสัตว์ทั้งหลาย เกิดขึ้นได้ทางใด ?
ก.การกระทำ ข.คำพูด
ค.ความคิด ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ง
9.การกระทำที่ไม่สำเร็จเป็นกรรมบถ เพราะขาดองค์ประกอบใด ?
ก.เวทนา ข.สัญญา
ค.เจตนา ง.อารมณ์
ตอบ ค
10.กรรมที่เกิดจากการกระทำทางกาย เรียกว่าอะไร ?
ก.กายกรรม ข.วจีกรรม
ค.มโนกรรม ง.ครุกรรม
ตอบ ก
11.ข้อใด ไม่นับเข้าในวจีกรรมฝ่ายอกุศล ?
ก.ปิสุณวาจา ข.มุสาวาท
ค.ผรุสวาจา ง.พยาบาท
ตอบ ง
12.การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต โดยตรงเกิดขึ้นจากกิเลสใด ?
ก.โลภะ ข.โทสะ
ค.โมหะ ง.ทิฏฐิ
ตอบ ข
13.ปาณาติบาตเป็นกายกรรม เพราะโดยมากเกิดขึ้นทางทวารใด ?
ก.กายทวาร ข.วจีทวาร
ค.มโนทวาร ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ก
14.ข้อใด เป็นอารมณ์ให้บุคคลกระทำปาณาติบาตได้ ?
ก.ภูเขา ข.ต้นไม้
ค.สัตว์ ง.ลำธาร
ตอบ ค
15.จิตคิดจะฆ่า เป็นองค์แห่งอกุศลกรรมบถข้อใด ?
ก.ปาณาติบาต ข.พยาบาท
ค.อทินนาทาน ง.ผรุสวาจา
ตอบ ก
16.จิตคิกจะลัก เป็นองคืแห่งอกุศลกรรมบทข้อใด ?
ก.ปาณาติบาต ข.พยาบาท
ค.อทินนาทาน ง.ผรุสวาจา
ตอบ ค
17.นาย ก สั่งนาย ข ให้ฆ่าคน เป็นปาณาติบาตเกิดขึ้นทางทวารใด ?
ก.กายทวาร ข.วจีทวาร
ค.มโนทวาร ง.ทุกทวาร
ตอบ ข
18.ปาณาติบาตมีโทษมากเพราะฆ่าสัตว์มีคุณ ตรงกับข้อใด ?
ก.ช้าง ข.บ่าง
ค.ค่าง ง.ชะนี
ตอบ ก
19.ข้อใด เป็นโทษเกิดจากการกระทำปาณาติบาต ?
ก.ครอบครัวแตกแยก ข.มีโรคภัยเบียดเบียน
ค.ทรัพย์สินสูญสลาย ง.มีแต่คนคอยว่าร้าย
ตอบ ข
20.ข้อใด เป็นโทษเกิดจากการกระทำอทินนาทาน ?
ก.เงินทองรั่วไหล ข.ถูกใส่ร้ายป้ายสี
ค.ไม่มีคนเชื่อถือ ง.มีสติเลอะเลือน
ตอบ ก
21.คำว่า อย่ามือไวใจเร็ว หมายถึง ห้ามประพฤติอกุศลกรรมบถใด ?
ก.มิจฉาทิฏฐิ ข.ปาณาติบาต
ค.ปิสุณวาจา ง.อทินนาทาน
ตอบ ง
22.พัสดุสิ่งของในข้อใด จัดเป็นวัตถุแห่งอทินนาทาน ?
ก.เจ้าของทิ้ง ข.เจ้าของหวง
ค.เจ้าของให้ ง.เจ้าของแจก
ตอบ ข
23.อทินนาทานมีโทษมาก เพราะเจ้าของมีคุณมาก ตรงกับข้อใด ?
ก.พ่อแม่ ข.เพื่อน
ค.พี่น้อง ง.หลาน
ตอบ ก
24.อทินนาทานที่เกิดขึ้นทางวจีทวาร ตรงกับข้อใด ?
ก.มีจิตคิดจะลัก ข.พยายามจะลัก
ค.ลักด้วยตัวเอง ง.สั่งให้คนอื่นลัก
ตอบ ง
25.พฤติกรรมใด เรียกว่า กาเมสุมิจฉาจาร ?
ก.จับปลาสองมือ ข.นับถือภรรยาตน
ค.เป็นคนรักเดียว ง.ไม่เกี้ยวแฟนใคร
ตอบ ก
26.เจตนาเป็นเหตุให้กระทำวจีกรรมฝ่ายอกุศล ตรงกับข้อใด ?
ก.ฆ่าสัตว์ ข.เห็นผิด
ค.ละโมบ ง.พูดปด
ตอบ ง
27.เจตนาเป็นเหตุให้คนพูดเท็จ เรียกว่าอะไร ?
ก.มุสาวาท ข.ปิสุณวาจา
ค.สัมผัปปลาปะ ง.ผรุสวาจา
ตอบ ก
28.องค์ที่ทำให้มุสาวาทสำเร็จเป็นกรรมบถ ตรงกับข้อใด ?
ก.เรื่องไม่จริง ข.จิตคิดจะพูด
ค.พยายามพูด ง.คนอื่นเข้าใจ
ตอบ ง
29.คำพูดยุยงทำให้คนเข้าใจผิดต่อกัน เรียกว่าอะไร ?
ก.มุสาวาท ข.ปิสุณวาจา
ค.สัมผัปปลาปะ ง.ผรุสวาจา
ตอบ ข
30.คำพูดที่ไม่เกิดประโยชน์ทั้งแก่ผู้พูดและผู้ฟัง เรียกว่าอะไร ?
ก.มุสาวาท ข.ผรุสวาจา
ค.สัมผัปปลาปะ ง.ปิสุรวาจา
ตอบ ค
31.อภิชฌา โดยสภาวะ ได้แก่กิเลสใด ?
ก.โลภะ ข.โทสะ
ค.โมหะ ง.มานะ
ตอบ ก
32.พยาบาท โดยสภาวะ ได้แก่กิเลสใด ?
ก.โลภะ ข.โทสะ
ค.โมหะ ง.ทิฏฐิ
ตอบ ข
33.ความคิดพยาบาทปองร้ายผู้อื่น ตรงกับข้อใด ?
ก.จงอย่ามีเวรต่อกันเลย
ข.จงอย่าทุกข์กายใจเลย
ค.จงอย่าเบียดเบียนกัน
ง.จงถึงความพินาศเถิด
ตอบ ง
34.ความคิดอาฆาตจองเวรผู้อื่น ควรแก้ด้วยวิธีใด ?
ก.เจริญเมตตา ข.ภาวนาพุทโธ
ค.ว่านโมให้จบ ง.สงบหยุดนิ่ง
ตอบ ก
35.จิตที่สหรคตด้วยอภิชฌา เป็นเหตุให้คนทำอกุศลกรรมใด ?
ก.ฆ่าสัตว์ ข.ลักทรัพย์
ค.อาฆาต ง.พูดโกหก
ตอบ ข
36.จิตที่สหรคตด้วยพยาบาท เป็นเหตุให้คนทำอกุศลกรรมใด ?
ก.เสพกาม ข.ลักทรัพย์
ค.ฆ่าสัตว์ ง.พูดโกหก
ตอบ ค
37.ความเห็นใด ปฏิเสธกรรมและผลแห่งกรรมอย่างสิ้นเชิง ?
ก.สัมมาทิฏฐิ ข.มิจฉาทิฏฐิ
ค.สักกายทิฏฐิ
ง.สัสสตทิฏฐิ
ตอบ ข
38.ความเห็นใด ไม่นับเข้าในนิยตมิจฉาทิฏฐิ
ก.สัมมาทิฏฐิ ข.นัตถิกทิฏฐิ
ค.อกิริยทิฏฐิ ง.อเหตุกทิฏฐิ
ตอบ ก
39.ความเห็นที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ เกิดขึ้นจากอกุสลมูลใด ?
ก.โลภะ ข.โทสะ
ค.โมหะ ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ค
40.ความเห็นใด ไม่ใช่ความเห็นเป็นมิจฉาทิฏฐิ ?
ก.โลกหน้าไม่มี ข.บาปบุญไม่มี
ค.ตายแล้วสูญ ง.ทานมีผลจริง
ตอบ ง
41.บางคนมีจิตโกรธแค้น พูดสาปแช่งให้ผู้อื่นประสบความวิบัติ
จัดเป็นมโนกรรมเกิดขึ้นทางทวารใด ?
ก.กายทวาร ข.วจีทวาร
ค.มโนทวาร ง.ทุกทวาร
ตอบ ข
42.อกุศลกรรมบถใด เพียงแต่คิดในใจก็สำเร็จเป็นกรรมบถได้ ?
ก.กาเมสุมิจฉาจาร ข.ผรุสวาจา
ค.สัมผัปปลาปะ ง.พยาบาท
ตอบ ง
43.กรรมบถใด จัดเป็นมโนกรรมฝ่ายกุศล ?
ก.มิจฉาทิฏฐิ ข.อภิชฌา
ค.สัมมาทิฏฐิ ง.มุสาวาท
ตอบ ค
44.มีท่อนไม้และศัตราอันวางแล้ว หมายถึงข้อใด ?
ก.หยุดทำร้ายกัน ข.หยุดลักขโมยกัน
ค.หยุดใส่ร้ายกัน ง.หยุดปองร้ายกัน
ตอบ ก
45.ข้ดใด กล่าวเรื่องกรรมในพระพุทธศาสนาได้ถูกต้อง ?
ก.ตัดกรรมได้ ข.ถอนกรรมได้
ค.แก้กรรมได้ ง.ได้รับผลกรรม
ตอบ ง
46.ข้อใด เป็นผลที่ได้รับจากการประพฤติกุศลกรรมบถโดยตรง ?
ก.มนุษย์ ข.สัตว์เดรัจฉาน
ค.สัตว์นรก ง.เปรตอสุรกาย
ตอบ ก
47.บุคคลประพฤติอย่างไร เรียกว่ามีเมตตาวจีกรรม ?
ก.งดทำร้ายกัน ข.งดปองร้ายกัน
ค.งดป้ายสีกัน ง.งดลักขโมยกัน
ตอบ ค
48.สัมมาทิฏฐิ เป็นธรรมจริยาและสมจริยาทางใด ?
ก.ทางกาย ข.ทางวาจา
ค.ทางใจ ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ค
49.ผู้สละประโยชน์ส่วนตนให้แก่ส่วนรวม ได้ชื่อว่ามีอุปนิสัยใด ?
ก.ทานูปนิสัย ข.ลีสูปนิสัย
ค.ภาวนูปนิสัย ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ก
50.กุศลกรรมบถ 10 ประการ จัดเข้าในหลักธรรมใด ?
ก.ศีล ข.สมาธิ
ค.ปัญญา ง.วิมุตติ
ตอบ ก
แม่กองธรรมสนามหลวง : เฉลย
คุรุธรรม
ก.กรรมนำสัตว์สู่สุคติทุคติ
ข.กรรมน้ำสัตว์สู่พรหมโลก
ค.กรรมนำสัตว์สู่มนุษยภูมิ
ง.กรรมนำสัตว์ไปอบายภูมิ
ตอบ ก
2.กุศลกรรมบถนำสัตว์ให้ไปเกิดในกำเนิดที่ดี ตรงกับข้อใด ?
ก.สัตว์นรก ข.เปรต
ค.อสุรกาย ง.มนุษย์
ตอบ ง
3.อกุศลกรรมบถนำสัตว์ให้ไปเกิดในกำเนิดที่เลว ตรงกับข้อใด ?
ก.พรหม ข.เทวดา
ค.เปรต ง.มนุษย์
ตอบ ค
4.กรรมบถ 10 ประการ จัดเป็นกรรม 3 อย่าง ยกเว้นข้อใด ?
ก.กายกรรม
ข.วจีกรรม
ค.มโนกรรม
ง.เวรกรรม
ตอบ ง
5.ในทางพระพุทธศาสนาว่า สุขทุกข์ของสัตว์ทั้งหลาย เกิดจากอะไร ?
ก.กิเลส ข.กรรม
ค.วิบาก ง.ชะตา
ตอบ ข
6.อโลภะ อโทสะ อโมหะ เป็นเหตุให้บุคคลกระทำกรรมใด ?
ก.บาปกรรม ข.อกุศลกรรม
ค.กุศลกรรม ง.อโหสิกรรม
ตอบ ค
7.การกระทำของสัตว์ทั้งหลายจะเป็นบุญหรือบาป ขึ้นอยู่กับอะไร ?
ก.เจตนา ข.สัญญา
ค.เวทนา ง.อารมณ์
ตอบ ก
8.การทำความดีความชั่วของสัตว์ทั้งหลาย เกิดขึ้นได้ทางใด ?
ก.การกระทำ ข.คำพูด
ค.ความคิด ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ง
9.การกระทำที่ไม่สำเร็จเป็นกรรมบถ เพราะขาดองค์ประกอบใด ?
ก.เวทนา ข.สัญญา
ค.เจตนา ง.อารมณ์
ตอบ ค
10.กรรมที่เกิดจากการกระทำทางกาย เรียกว่าอะไร ?
ก.กายกรรม ข.วจีกรรม
ค.มโนกรรม ง.ครุกรรม
ตอบ ก
11.ข้อใด ไม่นับเข้าในวจีกรรมฝ่ายอกุศล ?
ก.ปิสุณวาจา ข.มุสาวาท
ค.ผรุสวาจา ง.พยาบาท
ตอบ ง
12.การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต โดยตรงเกิดขึ้นจากกิเลสใด ?
ก.โลภะ ข.โทสะ
ค.โมหะ ง.ทิฏฐิ
ตอบ ข
13.ปาณาติบาตเป็นกายกรรม เพราะโดยมากเกิดขึ้นทางทวารใด ?
ก.กายทวาร ข.วจีทวาร
ค.มโนทวาร ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ก
14.ข้อใด เป็นอารมณ์ให้บุคคลกระทำปาณาติบาตได้ ?
ก.ภูเขา ข.ต้นไม้
ค.สัตว์ ง.ลำธาร
ตอบ ค
15.จิตคิดจะฆ่า เป็นองค์แห่งอกุศลกรรมบถข้อใด ?
ก.ปาณาติบาต ข.พยาบาท
ค.อทินนาทาน ง.ผรุสวาจา
ตอบ ก
16.จิตคิกจะลัก เป็นองคืแห่งอกุศลกรรมบทข้อใด ?
ก.ปาณาติบาต ข.พยาบาท
ค.อทินนาทาน ง.ผรุสวาจา
ตอบ ค
17.นาย ก สั่งนาย ข ให้ฆ่าคน เป็นปาณาติบาตเกิดขึ้นทางทวารใด ?
ก.กายทวาร ข.วจีทวาร
ค.มโนทวาร ง.ทุกทวาร
ตอบ ข
18.ปาณาติบาตมีโทษมากเพราะฆ่าสัตว์มีคุณ ตรงกับข้อใด ?
ก.ช้าง ข.บ่าง
ค.ค่าง ง.ชะนี
ตอบ ก
19.ข้อใด เป็นโทษเกิดจากการกระทำปาณาติบาต ?
ก.ครอบครัวแตกแยก ข.มีโรคภัยเบียดเบียน
ค.ทรัพย์สินสูญสลาย ง.มีแต่คนคอยว่าร้าย
ตอบ ข
20.ข้อใด เป็นโทษเกิดจากการกระทำอทินนาทาน ?
ก.เงินทองรั่วไหล ข.ถูกใส่ร้ายป้ายสี
ค.ไม่มีคนเชื่อถือ ง.มีสติเลอะเลือน
ตอบ ก
21.คำว่า อย่ามือไวใจเร็ว หมายถึง ห้ามประพฤติอกุศลกรรมบถใด ?
ก.มิจฉาทิฏฐิ ข.ปาณาติบาต
ค.ปิสุณวาจา ง.อทินนาทาน
ตอบ ง
22.พัสดุสิ่งของในข้อใด จัดเป็นวัตถุแห่งอทินนาทาน ?
ก.เจ้าของทิ้ง ข.เจ้าของหวง
ค.เจ้าของให้ ง.เจ้าของแจก
ตอบ ข
23.อทินนาทานมีโทษมาก เพราะเจ้าของมีคุณมาก ตรงกับข้อใด ?
ก.พ่อแม่ ข.เพื่อน
ค.พี่น้อง ง.หลาน
ตอบ ก
24.อทินนาทานที่เกิดขึ้นทางวจีทวาร ตรงกับข้อใด ?
ก.มีจิตคิดจะลัก ข.พยายามจะลัก
ค.ลักด้วยตัวเอง ง.สั่งให้คนอื่นลัก
ตอบ ง
25.พฤติกรรมใด เรียกว่า กาเมสุมิจฉาจาร ?
ก.จับปลาสองมือ ข.นับถือภรรยาตน
ค.เป็นคนรักเดียว ง.ไม่เกี้ยวแฟนใคร
ตอบ ก
26.เจตนาเป็นเหตุให้กระทำวจีกรรมฝ่ายอกุศล ตรงกับข้อใด ?
ก.ฆ่าสัตว์ ข.เห็นผิด
ค.ละโมบ ง.พูดปด
ตอบ ง
27.เจตนาเป็นเหตุให้คนพูดเท็จ เรียกว่าอะไร ?
ก.มุสาวาท ข.ปิสุณวาจา
ค.สัมผัปปลาปะ ง.ผรุสวาจา
ตอบ ก
28.องค์ที่ทำให้มุสาวาทสำเร็จเป็นกรรมบถ ตรงกับข้อใด ?
ก.เรื่องไม่จริง ข.จิตคิดจะพูด
ค.พยายามพูด ง.คนอื่นเข้าใจ
ตอบ ง
29.คำพูดยุยงทำให้คนเข้าใจผิดต่อกัน เรียกว่าอะไร ?
ก.มุสาวาท ข.ปิสุณวาจา
ค.สัมผัปปลาปะ ง.ผรุสวาจา
ตอบ ข
30.คำพูดที่ไม่เกิดประโยชน์ทั้งแก่ผู้พูดและผู้ฟัง เรียกว่าอะไร ?
ก.มุสาวาท ข.ผรุสวาจา
ค.สัมผัปปลาปะ ง.ปิสุรวาจา
ตอบ ค
31.อภิชฌา โดยสภาวะ ได้แก่กิเลสใด ?
ก.โลภะ ข.โทสะ
ค.โมหะ ง.มานะ
ตอบ ก
32.พยาบาท โดยสภาวะ ได้แก่กิเลสใด ?
ก.โลภะ ข.โทสะ
ค.โมหะ ง.ทิฏฐิ
ตอบ ข
33.ความคิดพยาบาทปองร้ายผู้อื่น ตรงกับข้อใด ?
ก.จงอย่ามีเวรต่อกันเลย
ข.จงอย่าทุกข์กายใจเลย
ค.จงอย่าเบียดเบียนกัน
ง.จงถึงความพินาศเถิด
ตอบ ง
34.ความคิดอาฆาตจองเวรผู้อื่น ควรแก้ด้วยวิธีใด ?
ก.เจริญเมตตา ข.ภาวนาพุทโธ
ค.ว่านโมให้จบ ง.สงบหยุดนิ่ง
ตอบ ก
35.จิตที่สหรคตด้วยอภิชฌา เป็นเหตุให้คนทำอกุศลกรรมใด ?
ก.ฆ่าสัตว์ ข.ลักทรัพย์
ค.อาฆาต ง.พูดโกหก
ตอบ ข
36.จิตที่สหรคตด้วยพยาบาท เป็นเหตุให้คนทำอกุศลกรรมใด ?
ก.เสพกาม ข.ลักทรัพย์
ค.ฆ่าสัตว์ ง.พูดโกหก
ตอบ ค
37.ความเห็นใด ปฏิเสธกรรมและผลแห่งกรรมอย่างสิ้นเชิง ?
ก.สัมมาทิฏฐิ ข.มิจฉาทิฏฐิ
ค.สักกายทิฏฐิ
ง.สัสสตทิฏฐิ
ตอบ ข
38.ความเห็นใด ไม่นับเข้าในนิยตมิจฉาทิฏฐิ
ก.สัมมาทิฏฐิ ข.นัตถิกทิฏฐิ
ค.อกิริยทิฏฐิ ง.อเหตุกทิฏฐิ
ตอบ ก
39.ความเห็นที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ เกิดขึ้นจากอกุสลมูลใด ?
ก.โลภะ ข.โทสะ
ค.โมหะ ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ค
40.ความเห็นใด ไม่ใช่ความเห็นเป็นมิจฉาทิฏฐิ ?
ก.โลกหน้าไม่มี ข.บาปบุญไม่มี
ค.ตายแล้วสูญ ง.ทานมีผลจริง
ตอบ ง
41.บางคนมีจิตโกรธแค้น พูดสาปแช่งให้ผู้อื่นประสบความวิบัติ
จัดเป็นมโนกรรมเกิดขึ้นทางทวารใด ?
ก.กายทวาร ข.วจีทวาร
ค.มโนทวาร ง.ทุกทวาร
ตอบ ข
42.อกุศลกรรมบถใด เพียงแต่คิดในใจก็สำเร็จเป็นกรรมบถได้ ?
ก.กาเมสุมิจฉาจาร ข.ผรุสวาจา
ค.สัมผัปปลาปะ ง.พยาบาท
ตอบ ง
43.กรรมบถใด จัดเป็นมโนกรรมฝ่ายกุศล ?
ก.มิจฉาทิฏฐิ ข.อภิชฌา
ค.สัมมาทิฏฐิ ง.มุสาวาท
ตอบ ค
44.มีท่อนไม้และศัตราอันวางแล้ว หมายถึงข้อใด ?
ก.หยุดทำร้ายกัน ข.หยุดลักขโมยกัน
ค.หยุดใส่ร้ายกัน ง.หยุดปองร้ายกัน
ตอบ ก
45.ข้ดใด กล่าวเรื่องกรรมในพระพุทธศาสนาได้ถูกต้อง ?
ก.ตัดกรรมได้ ข.ถอนกรรมได้
ค.แก้กรรมได้ ง.ได้รับผลกรรม
ตอบ ง
46.ข้อใด เป็นผลที่ได้รับจากการประพฤติกุศลกรรมบถโดยตรง ?
ก.มนุษย์ ข.สัตว์เดรัจฉาน
ค.สัตว์นรก ง.เปรตอสุรกาย
ตอบ ก
47.บุคคลประพฤติอย่างไร เรียกว่ามีเมตตาวจีกรรม ?
ก.งดทำร้ายกัน ข.งดปองร้ายกัน
ค.งดป้ายสีกัน ง.งดลักขโมยกัน
ตอบ ค
48.สัมมาทิฏฐิ เป็นธรรมจริยาและสมจริยาทางใด ?
ก.ทางกาย ข.ทางวาจา
ค.ทางใจ ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ค
49.ผู้สละประโยชน์ส่วนตนให้แก่ส่วนรวม ได้ชื่อว่ามีอุปนิสัยใด ?
ก.ทานูปนิสัย ข.ลีสูปนิสัย
ค.ภาวนูปนิสัย ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ก
50.กุศลกรรมบถ 10 ประการ จัดเข้าในหลักธรรมใด ?
ก.ศีล ข.สมาธิ
ค.ปัญญา ง.วิมุตติ
ตอบ ก
แม่กองธรรมสนามหลวง : เฉลย
คุรุธรรม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)